ทุนประกันรถยนต์ คืออะไร ทำไมถึงสำคัญในการทำประกัน

การมีประกันรถยนต์เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ใช้รถ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจคำศัพท์เฉพาะอย่าง “ทุนประกันรถยนต์” อย่างถ่องแท้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความคุ้มครอง วันนี้ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจว่าทุนประกันรถยนต์คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร เพื่อช่วยให้เราตัดสินใจเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและคุ้มค่าที่สุดก่อนตัดสินใจ

ทุนประกันรถยนต์ คืออะไร ต้องดูตรงไหน

ทุนประกันรถยนต์ คือ จำนวนเงินสูงสุดที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกัน กรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ถูกโจรกรรม หรือเกิดไฟไหม้ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยอยู่แล้ว หรือพูดง่าย ๆ คือ เป็นเพดานความคุ้มครองสูงสุดสำหรับตัวรถยนต์คันที่เอาประกันภัย ซึ่งไม่ใช่เงินที่เราจ่าย แต่เป็นวงเงินที่เราจะได้รับเมื่อเกิดเหตุ การมีเลือกทุนประกันภัยที่เหมาะสมจึงสำคัญ

ทุนประกันรถยนต์ต่างจากเบี้ยประกันอย่างไร

สิ่งสำคัญคือต้องแยกให้ออกระหว่างทุนประกันรถยนต์กับเบี้ยประกัน โดยทุนประกันรถยนต์หมายถึงวงเงินคุ้มครองสูงสุดที่บริษัทประกันจะจ่ายให้เมื่อเกิดความเสียหายตามเงื่อนไข ส่วน “เบี้ยประกัน” คือ จำนวนเงินที่เราต้องจ่ายให้กับบริษัทประกัน เพื่อซื้อความคุ้มครองนั้น ๆ โดยทั่วไปแล้ว หากเลือกทุนประกันรถยนต์สูง เบี้ยประกันก็มักจะสูงตามไปด้วย

ทุนประกันคืออะไรในแง่ของการคุ้มครองจริง

ในทางปฏิบัติ ทุนประกันภัยทำหน้าที่เป็นเหมือน “เพดาน” การจ่ายค่าชดเชย หากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์มีมูลค่าสูงกว่าวงเงินทุนประกันรถยนต์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินมานั้นด้วยตนเอง ดังนั้น การพิจารณาว่าควรเลือกทุนประกันรถยนต์เท่าไหร่ดี จึงมีผลโดยตรงต่อความอุ่นใจและภาระทางการเงินเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อทุนประกันรถยนต์ มีอะไรบ้าง

วงเงินทุนประกันรถยนต์ที่บริษัทประกันเสนอให้ ไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นมาตามอำเภอใจ แต่จะพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆ ด้านประกอบกัน เพื่อให้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของรถและความเสี่ยง ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ส่งผล

อายุและสภาพรถยนต์

โดยทั่วไป รถยนต์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ (ป้ายแดง) จะได้รับทุนประกันรถยนต์สูงสุด และวงเงินนี้จะค่อย ๆ ลดลงในแต่ละปีที่ต่ออายุประกันภัย (ประมาณปีละ 10%) เนื่องจากการเสื่อมค่าตามธรรมชาติของรถยนต์ สภาพการใช้งานและการดูแลรักษาก็มีผลเช่นกัน รถที่ดูแลดี สภาพสมบูรณ์ อาจรักษาระดับทุนประกันภัยได้ดีกว่ารถปีเดียวกันแต่สภาพทรุดโทรม

ราคากลางของรถยนต์ในตลาด

บริษัทประกันภัยจะใช้วิธีอ้างอิง “ราคากลาง” ของรถยนต์รุ่นและปีนั้น ๆ ในตลาดซื้อขายรถยนต์มือสอง ณ ปัจจุบัน เป็นเกณฑ์สำคัญในการกำหนดวงเงินทุนประกันรถยนต์ เพื่อให้แน่ใจว่าจำนวนเงินคุ้มครองนั้นสมเหตุสมผล ไม่สูงหรือต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของรถยนต์มากเกินไป นี่คือหลักการพื้นฐานในการตั้งทุนประกันภัย

ประเภทของประกันภัยที่เลือก (ชั้น 1, 2+, 3)

ประเภทของประกันภัยรถยนต์ที่เลือกซื้อก็มีผลโดยตรงต่อทุนประกันรถยนต์ เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด มักจะเสนอทุนประกันรถยนต์สำหรับความเสียหายต่อตัวรถเอง ไฟไหม้ และสูญหาย ในขณะที่ประกันชั้น 2+ หรือประกันชั้น 3+ อาจมีทุนประกันรถยนต์ต่ำกว่า หรือไม่มีเลยสำหรับความเสียหายต่อรถคันเอาประกัน (กรณีประกันชั้น 3)

นโยบายของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง

บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งอาจมีสูตรการคำนวณ หรือนโยบายในการกำหนดทุนประกันรถยนต์ที่แตกต่างกันไปบ้าง รวมถึงอาจมีข้อเสนอ หรือแคมเปญพิเศษที่ส่งผลต่อทั้งทุนประกันภัยและเบี้ยประกัน การเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ บริษัทจึงเป็นแนวทางที่ดีที่จะช่วยให้ได้ทุนประกันรถยนต์ที่เหมาะสมและคุ้มค่า

วิธีคำนวณทุนประกันรถยนต์

การกำหนดวงเงินทุนประกันรถยนต์มีหลักการคิดที่ไม่ซับซ้อน โดยทั่วไปบริษัทประกันจะพิจารณาจากมูลค่าปัจจุบันของรถยนต์ในตลาด หรือ “ราคากลาง” แล้วหักค่าเสื่อมสภาพจากการใช้งานออก ซึ่งปกติจะหักออกไปอย่างน้อย 10% ทำให้วงเงินทุนประกันรถยนต์ที่คุณจะได้รับมักจะอยู่ในช่วง 80% ถึง 90% ของราคากลางนั้น ๆ ลองมาดูแนวทางการคำนวณที่นิยมใช้กัน

สำหรับรถใหม่ป้ายแดง 

• ซื้อแบบผ่อน : เนื่องจากผู้ซื้อมักวางเงินดาวน์ไปแล้วส่วนหนึ่ง (เช่น 20%) ทุนประกันรถยนต์เริ่มต้นจึงมักกำหนดไว้ที่ประมาณ 80% ของราคาซื้อขาย เพื่อไม่ให้วงเงินคุ้มครองสูงเกินมูลค่ารถที่แท้จริงในช่วงแรก
• ซื้อด้วยเงินสด : กรณีนี้ ผู้ซื้อเป็นเจ้าของมูลค่ารถเต็มๆ ตั้งแต่ต้น จึงอาจได้รับข้อเสนอทุนประกันรถยนต์ที่สูงขึ้นได้ อาจถึง 90% ของราคาซื้อขายรถคันนั้น

สำหรับการต่อประกันในปีถัดไป

การคำนวณทุนประกันรถยนต์อาจทำได้ 2 แนวทางหลัก ๆ คือ

• อิงจากทุนประกันเดิม : คำนวณโดยนำทุนประกันรถยนต์ของปีก่อนหน้ามาหักค่าเสื่อมราคาออกไปอีกประมาณ 10-20% (เช่น ทุนประกันใหม่ = 80% หรือ 90% ของทุนประกันปีก่อน)
• อิงจากราคากลางปัจจุบัน : คำนวณใหม่โดยใช้ 80-90% ของ “ราคากลาง” ของรถรุ่นและปีนั้น ๆ ในตลาด ณ เวลาต่อประกัน วิธีนี้อาจใช้ในกรณีที่ราคารถยนต์ในตลาดผันผวน หรือเมื่อไม่แน่ใจข้อมูลทุนประกันรถยนต์เดิม

ตัวอย่าง

สมมติว่ารถยนต์รุ่น A มีราคากลางในตลาดปัจจุบัน 500,000 บาท

• ปีแรก : ทุนประกันรถยนต์อาจเป็น 500,000 บาท x 80% = 400,000 บาท
• ปีที่สอง : อาจคำนวณจากทุนเดิม โดยหักค่าเสื่อม 10% เป็น 400,000 บาท x 90% = 360,000 บาท หรืออาจคำนวณจากราคากลางใหม่ของปีที่สองก็ได้
• เรื่องอุปกรณ์ตกแต่ง : หากคุณมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ล้อแม็กซ์ ชุดแต่ง หรือเครื่องเสียง ควรแจ้งรายละเอียดเหล่านี้ให้บริษัทประกันทราบ เพื่อให้พิจารณาเพิ่มความคุ้มครองในทุนประกันรถยนต์ ซึ่งอาจมีผลต่อเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

สรุปบทความ ทุนประกันรถยนต์มีความสำคัญอย่างไร

โดยสรุปแล้ว ทุนประกันรถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นตัวชี้วัดวงเงินสูงสุดที่บริษัทประกันจะเข้ามาช่วยเหลือด้านการเงินเมื่อรถของคุณเกิดความเสียหาย สูญหาย หรือไฟไหม้ ดังนั้นแล้ว การเลือกทำประกันที่ให้ทุนประกันที่ครอบคลุมจึงต้องเปรียบเทียบให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ ซึ่งทาง “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” มีบริการประกันภัยรถยนต์ ผ่อนเงินสดหลักร้อย ได้นานสูงสุดถึง 12 งวด ไม่มีดอกเบี้ย จากบริษัทชั้นนำมากมายให้เลือกได้ตรงใจ ภายใต้หลักการทำงาน “มั่นใจ โปร่งใส และถูกกฎหมาย” จากประสบการณ์กว่า 40 ปี สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศ. ศาลาสีส้มทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือแอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์” มีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาผ่านแอปพลิเคชัน หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.sawad.co.th หรือจะทักมาคุยกันใน LINE Official: @srisawad ก็ได้ หรือถ้าอยากคุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรง โทร. 1652 ได้เลย 

หมายเหตุ :

• เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
• นายหน้าประกันวินาศภัย : บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด
• เลขที่ใบอนุญาต : ว00011/2561