เมื่อต้องการเงินก้อนอย่างรวดเร็ว สินเชื่อรถแลกเงินถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยใช้รถยนต์ที่เรามีอยู่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งหลักๆ มี 2 รูปแบบ คือ “แบบไม่โอนเล่ม” และ “แบบโอนเล่ม” หลายคนอาจสงสัยว่าทั้งสองแบบนี้เหมือนหรือต่างกันอย่างไร วันนี้ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจจะมาอธิบายเรื่องสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม และแบบโอนเล่มอย่างละเอียดให้เอง
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม คืออะไร
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม คือ การขอสินเชื่อโดยใช้เล่มทะเบียนรถยนต์เป็นเอกสารค้ำประกันกับผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยที่ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนยังคงเป็นชื่อของผู้กู้ตามเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้กู้เพียงมอบเล่มทะเบียนตัวจริงให้ผู้ให้บริการสินเชื่อเก็บไว้เท่านั้น
รู้จักข้อดีและข้อควรรู้ของสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีความสะดวกในหลาย ๆ ด้าน แต่ก็มีบางจุดที่ควรทราบไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจเช่นกัน การทำความเข้าใจทั้งข้อดี และข้อควรรู้จะช่วยให้เลือกสินเชื่อได้ตรงความต้องการมากขึ้น
ข้อดีของสินเชื่อรถแลกเงินไม่ต้องโอนเล่ม
- ชื่อเจ้าของรถยังเป็นชื่อเดิม : ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียน ยังคงเป็นเจ้าของรถตามกฎหมาย
- ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก : ลดขั้นตอนการเดินทางไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่งทางบก
- รับเงินได้รวดเร็ว : เมื่อขั้นตอนน้อยลง การอนุมัติและรับเงินจึงมักทำได้ไวกว่าแบบโอนเล่ม
- ไม่ต้องเสียค่าโอน : ประหยัดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่กรมการขนส่งฯ
- อาจไม่มี VAT ในค่างวด : โดยทั่วไป ค่างวดของ สินเชื่อรถแลกเงินไม่ต้องโอนเล่ม จะไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%)
ข้อควรรู้ของสินเชื่อรถแลกเงินไม่ต้องโอนเล่ม
- วงเงินอนุมัติ : วงเงินที่ได้รับอาจจะไม่มากเท่าแบบโอนเล่ม เนื่องจากความเสี่ยงของผู้ให้บริการสินเชื่ออาจสูงกว่า
- อัตราดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าแบบโอนเล่มเล็กน้อย เพื่อชดเชยความเสี่ยง
- ต้องมอบเล่มทะเบียนตัวจริง : ผู้ให้บริการสินเชื่อจะเก็บเล่มทะเบียนรถฉบับจริงไว้จนกว่าจะผ่อนชำระหมด
- อาจมีเงื่อนไขประกันภัย : ผู้ให้บริการบางรายอาจกำหนดให้ต้องมีประกันภัยรถยนต์ตามประเภทที่กำหนด
สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม คืออะไร
สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม คือ การขอสินเชื่อที่ผู้กู้จะต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ในเล่มทะเบียนให้เป็นชื่อของผู้ให้บริการสินเชื่อชั่วคราวที่กรมการขนส่งทางบก และเมื่อผ่อนชำระหนี้ครบถ้วนตามสัญญาแล้ว ผู้ให้บริการสินเชื่อก็จะโอนกรรมสิทธิ์รถกลับคืนมาเป็นชื่อผู้กู้ตามเดิม
รู้จักข้อดีและข้อเสียของสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม
สินเชื่อแบบโอนเล่มก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนต้องการเงินก้อน โดยมีจุดเด่นบางอย่างที่แตกต่างจาก รถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม แต่ก็มีข้อควรพิจารณาในเรื่องขั้นตอนและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน ลองมาดูรายละเอียดกัน
ข้อดีของสินเชื่อรถแลกเงินโอนเล่ม
- โอกาสได้วงเงินสูงกว่า : เนื่องจากผู้ให้บริการสินเชื่อมีความเสี่ยงน้อยลงจากการถือครองกรรมสิทธิ์ จึงอาจอนุมัติวงเงินได้สูงกว่า
- อัตราดอกเบี้ยอาจต่ำกว่า : การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เป็นของผู้ให้กู้ชั่วคราว ทำให้ความเสี่ยงของผู้ให้กู้ลดลง จึงสามารถเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าได้ ช่วยให้ผู้กู้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น
- อาจได้รับการอนุมัติง่ายกว่า : ผู้ปล่อยกู้มีกรรมสิทธิ์ในตัวรถเป็นหลักประกันที่ชัดเจน ทำให้มั่นใจในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จึงอาจมีเกณฑ์การพิจารณาที่ยืดหยุ่นและเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสำหรับผู้ยื่นกู้
ข้อเสียของสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม
- ชื่อเจ้าของเปลี่ยนชั่วคราว : ชื่อในเล่มทะเบียนจะเปลี่ยนเป็นของผู้ให้บริการสินเชื่อตลอดอายุสัญญา
- ขั้นตอนเพิ่มขึ้น : ต้องเสียเวลาไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่งทางบก ทั้งตอนเริ่มสัญญาและตอนปิดสัญญา
- มีค่าใช้จ่ายในการโอน : ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ 2 ครั้ง (โอนไปและโอนกลับ)
- ค่างวดมักรวม VAT 7% : โดยทั่วไป ค่างวดผ่อนชำระจะถูกคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ยอดจ่ายต่อเดือนสูงขึ้นเล็กน้อย
ความต่างของสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มกับโอนเล่ม
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เรามาสรุปความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง สินเชื่อรถแลกเงินไม่ต้องโอนเล่ม กับแบบโอนเล่มในแต่ละด้านกัน
ด้านกรรมสิทธิ์ครอบครองในเล่มทะเบียน
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม ชื่อเจ้าของในเล่มทะเบียนยังเป็นชื่อผู้กู้เหมือนเดิม ส่วนแบบโอนเล่ม ชื่อจะเปลี่ยนเป็นของผู้ให้บริการสินเชื่อชั่วคราวจนกว่าจะผ่อนชำระหมดสัญญา นี่คือความแตกต่างหลักที่ชัดเจนที่สุดของสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม
ด้านขั้นตอนและระยะเวลาดำเนินการ
สินเชื่อรถแลกเงินไม่ต้องโอนเล่ม มีขั้นตอนน้อยกว่า ไม่ต้องไปกรมขนส่งฯ ทำให้มักได้รับอนุมัติและเงินรวดเร็วกว่า ส่วนแบบโอนเล่มจะมีขั้นตอนการดำเนินการที่กรมขนส่งฯ เพิ่มเข้ามา ทำให้ใช้เวลาโดยรวมนานกว่า
ด้านค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มแทบไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มในเรื่องการโอน ขณะที่แบบโอนเล่มจะมีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมขนส่งฯ ซึ่งต้องจ่าย 2 ครั้ง คือตอนโอนไปให้ผู้ให้บริการสินเชื่อ และตอนโอนกลับมาเป็นชื่อเราเมื่อผ่อนหมด
ด้านวงเงินและอัตราดอกเบี้ย
โดยทั่วไป สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่มอาจมีแนวโน้มให้วงเงินสูงกว่า และดอกเบี้ยต่ำกว่าเล็กน้อย เพราะผู้ให้บริการมีความเสี่ยงต่ำกว่า ส่วนสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม แม้วงเงินหรือดอกเบี้ยอาจไม่เท่า แต่ก็ได้ความสะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องเสียค่าโอนเข้ามาแทน
สรุปบทความ ความต่างของสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มกับแบบโอนเล่ม
จะเห็นได้ว่า เมื่อเปรียบเทียบสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มกับแบบโอนเล่มแล้ว แบบไม่โอนเล่มจะสะดวกมากกว่า และตอบโจทย์คนที่ต้องการใช้เงินก้อนได้อย่างทันใจ หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อทะเบียนรถยนต์อยู่ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” มีบริการสินเชื่อรถยนต์ที่ช่วยแก้ปัญหาทางการเงินของคุณได้อย่างสบายใจ ด้วยขั้นตอนการพิจารณาที่รวดเร็ว ไม่ซับซ้อน ด้วยขั้นตอนการพิจารณาที่รวดเร็ว หากเอกสารครบถ้วน ทำให้คุณได้เงินก้อนสะดวกขึ้น เพราะเรามุ่งมั่นให้บริการด้วยหลักการทำงาน “มั่นใจ โปร่งใส และถูกกฎหมาย” ทำสัญญาแล้วได้คู่สัญญาทันที จากประสบการณ์กว่า 40 ปี สามารถติดต่อได้ที่ ศ. ศาลาสีส้มทุกสาขาใกล้บ้านคุณ แอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์” พร้อมให้บริการบนทั้งระบบ iOS และ Android หรือ www.sawad.co.th LINE Official: @srisawad และ. โทร. 1652 เพื่อรับคำปรึกษาฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย
หมายเหตุ
- สินเชื่อรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.85% – 24.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 54 งวด
- ระยะเวลาการได้รับเล่มคืนภายใน 10 วันทำการหลังชำระยอดปิดบัญชี
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด