เพราะการเริ่มต้นธุรกิจด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก การเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ หรือคนที่เบื่อแล้วกับการเป็นพนักงานเงินเดือน แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าธุรกิจแฟรนไชส์ที่เลือกจะขายได้ และไม่ทำให้ต้องสูญเงินทุนไปเปล่า ๆ เพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยให้คุณทำตามฝันได้สำเร็จ เรามีเคล็ดลับในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์มาแนะนำกัน
10 แฟรนไชส์มาแรงน่าลงทุนในปี 2025
1. แฟรนไชส์ซอฟต์เสิร์ฟ Mixue
แบรนด์ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนที่ขยายสาขามาแล้วกว่า 30,000 สาขาทั่วโลก โดดเด่นด้วยรสชาติที่อร่อย ราคาเข้าถึงง่าย และมีเมนูหลากหลาย ทั้งไอศกรีม เครื่องดื่ม และขนมต่าง ๆ แม้จะเพิ่งเข้ามาในไทยไม่นาน แต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดี และมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นแฟรนไชส์น่าลงทุนอย่างมาก
- ค่าแฟรนไชส์: 800,000 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน: 1-2 ปี
2. แฟรนไชส์โก๋นักบิน
แบรนด์ปาท่องโก๋สุดฮิตที่พัฒนาสูตรโดยอดีตนักบิน ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงนำเข้าจากฝรั่งเศส ทำให้ได้ปาท่องโก๋ที่กรอบนอกนุ่มใน ไร้กลิ่นแอมโมเนีย เสิร์ฟพร้อมดิปหลากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับขายทั้งหน้าร้าน และเดลิเวอรี่
- ค่าแฟรนไชส์: 39,000 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน: 2-4 เดือน
3. แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก UWASH
ร้านสะดวกซักที่มาพร้อมระบบอัจฉริยะ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย ด้วยเครื่องซักผ้าคุณภาพสูง และระบบบริหารจัดการแบบ Smart Kiosk ที่ช่วยให้เจ้าของกิจการบริหารงานได้ง่าย โดดเด่นด้วยการไม่เก็บส่วนแบ่ง และค่าแฟรนไชส์รายเดือน จึงสำหรับคนที่กำลังหาแฟรนไชส์น่าลงทุนในช่วงนี้
- ค่าแฟรนไชส์ : 490,000 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน : 18-24 เดือน
4. แฟรนไชส์ชานมไข่มุก Hop Chafe
แบรนด์ชานมไข่มุกที่เน้นคุณภาพวัตถุดิบ และรสชาติที่กลมกล่อม ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งชานม นมสด และเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ต่าง ๆ พร้อมระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน และการสนับสนุนด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง
- ค่าแฟรนไชส์ : 39,000 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน : 3-6 เดือน
5. แฟรนไชส์กะเพราขุนช้าง
เมนูอาหารจานเดียวยอดนิยมที่ขายได้ตลอดทั้งวัน ด้วยสูตรซอสกะเพราเฉพาะที่ปรุงรสจัดจ้าน ถูกปากคนไทย เริ่มต้นจากธุรกิจเดลิเวอรี่จนประสบความสำเร็จ และขยายเป็นแฟรนไชส์ มาพร้อมระบบสนับสนุนผ่านกลุ่มไลน์ที่ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ จึงเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์น่าลงทุนที่ใช้งบไม่เยอะ
- ค่าแฟรนไชส์ : 9,900 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน : 2-3 เดือน
6. แฟรนไชส์ Coffee Today
ร้านกาแฟที่พัฒนารสชาติให้ถูกปากคนไทย เน้นความกลมกล่อม หอมละมุน ไม่เข้มจนเกินไป ราคาเข้าถึงได้ มาพร้อมหลักสูตรอบรมการชงกาแฟฟรีตลอดอายุสัญญา และบริการตรวจเช็กอุปกรณ์ฟรี รวมถึงการอบรมด้านการบริการจากผู้เชี่ยวชาญ
- ค่าแฟรนไชส์ : 30,000 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน : 4-6 เดือน
7. แฟรนไชส์เครปวิศวะ
แบรนด์เครปที่พัฒนาสูตรมานานกว่า 6 ปี โดยเจ้าของที่จบวิศวกรรมศาสตร์ โดดเด่นด้วยเนื้อแป้งที่มีเอกลักษณ์และไส้ให้เลือกมากถึง 40 แบบ มีฐานแฟนคลับใน TikTok กว่า 150,000 คน พร้อมการสอนทำเครปแบบตัวต่อตัวก่อนเปิดร้าน ทำให้เป็นแฟรนไชส์น่าลงทุนที่คนไม่มีพื้นฐานด้านอาหารก็ทำได้
- ค่าแฟรนไชส์ : 24,900 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน : 3-6 เดือน
8. แฟรนไชส์สุกี้นายพัน
ร้านสุกี้ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 15 ปี มีจุดเด่นที่น้ำจิ้มสูตรพิเศษ และความหลากหลายของเมนู นอกจากสุกี้ยังมีอาหารอื่น ๆ เช่น ยำและไก่ทอดเกาหลี มาพร้อมคู่มือการเปิดร้านแบบทีละขั้นตอน และทีมงานคอยให้คำปรึกษา ทำให้เป็นแฟรนไชส์น่าลงทุนอย่างมากในยุคนี้ ที่ใคร ๆ ก็ชอบกินสุกี้
- ค่าแฟรนไชส์ : 9,900 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน : 3-4 เดือน
9. แฟรนไชส์ Sara Pizza
พิซซ่าฮาลาลที่เติมเต็มช่องว่างในตลาด ด้วยแป้งพิซซ่าที่ผลิตจากโรงงานมาตรฐาน รับรองฮาลาล พร้อมเมนูหลากหลายทั้งพิซซ่าและอาหารนานาชาติ ตอบโจทย์ทั้งลูกค้ามุสลิมและลูกค้าทั่วไปที่ต้องการความอร่อยในราคาที่เข้าถึงได้
- ค่าแฟรนไชส์ : 29,000 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน : 6-12 เดือน
10. แฟรนไชส์ Cheesy Fried Snacks
แบรนด์เฟรนช์ฟรายส์ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ พร้อมซอสและผงรสชาติซิกเนเจอร์หลากหลาย ทั้งรสซิกเนเจอร์ สไปซี่ชีสวาซาบิ และเชดด้าชีส ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดของทานเล่นที่ยังเติบโตต่อเนื่อง เหมาะอย่างมากสำหรับคนมองหาแฟรนไชส์น่าลงทุน แต่อยากขายอะไรง่าย ๆ
- ค่าแฟรนไชส์ : 29,900 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน : 3-4 เดือน
9 เช็กลิสต์มีให้ครบก่อนตัดสินใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์
การตัดสินใจว่าจะเลือกลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์อะไรดี ที่มั่นใจว่าทำแล้วจะขายได้ ไม่ขาดทุน อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป หากพิจารณาเลือกแฟรนไชส์จากปัจจัยเหล่านี้
1. สินค้าเป็นที่สนใจ ตอบโจทย์ผู้บริโภค
หากจะก้าวสู่การเป็นเจ้าของกิจการแฟรนไชส์ สิ่งแรกที่ผู้ลงทุนต้องทำคือการวิเคราะห์ตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ให้ออก โดยต้องทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคเสียก่อนว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ในแต่ละแบรนด์ หรือแต่ละประเภทนั้น มีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร
รวมไปถึงต้องรู้จุดเด่นของบริการและสินค้า เพื่อจะได้นำไปเปรียบเทียบกันระหว่างแบรนด์ต่าง ๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน และนำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลือกแฟรนไชส์ต่อได้
2. มีระบบแฟรนไชส์ที่ดี
สิ่งสำคัญประการต่อมาคือ ควรเลือกแฟรนไชส์ที่มีระบบดี ไม่ว่าจะเป็นระบบสต็อกสินค้า กระบวนการผลิตสินค้า หรือว่าการจัดส่งวัตถุดิบหลักต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาของขาดสต็อก หรือวัตถุดิบในการผลิตสินค้าไม่มีคุณภาพ จนทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักลง
3. เป็นธุรกิจที่กำลังเติบโต
ปัจจัยต่อมาที่ต้องพิจารณาก่อนการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ คือต้องดูว่าเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตหรือไม่ โดยต้องไม่ตัดสินใจจากจำนวนสาขาว่ามากหรือน้อยเท่านั้น แต่ต้องดูจำนวนของลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการกับทางร้านในแต่ละสาขา แต่ละวันอีกด้วย
4. เจ้าของแฟรนไชส์มีประสบการณ์สูง
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ คือต้องดูว่าเจ้าของแฟรนไชส์เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจแฟรนไชส์หรือไม่ โดยควรเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่เจ้าของมีประสบการณ์ในธุรกิจของตนมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์นี้แล้วเจ้าของจะยังบริหารจัดการแฟรนไชส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้แฟรนไชส์ยังอยู่ไปอีกนาน ไม่เทไม่ทิ้ง ให้ธุรกิจเสียหาย
5. เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ปัจจัยสำคัญต่อมาที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ คือชื่อเสียงของแบรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์นั้น ๆ โดยควรเลือกธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และมักได้รับการกล่าวถึงจากลูกค้าหรือผู้ที่เคยใช้บริการในแง่มุมที่ดี เพื่อเป็นสิ่งช่วยการันตีว่าเลือกลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์นี้แล้ว จะมีลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการอย่างแน่นอน
6. ถ่ายทอด Know How แบบไม่กั๊ก
เชื่อว่าหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ใครหลายคนสนใจที่จะทำธุรกิจแฟรนไชส์มากกว่าการริเริ่มสร้างธุรกิจใหม่ด้วยตนเอง คือต้องการได้รับ Know How จากธุรกิจเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดการหน้าร้าน ระบบจัดการสต็อกสินค้า ระบบบัญชี หรือวิธีการบริหารจัดการร้านทั่วไป ที่จะช่วยให้ดำเนินธุรกิจง่ายขึ้น ไม่ต้องมาเสี่ยงลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ดังนั้นในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ จึงควรเลือกแบรนด์ที่เจ้าของยินดีถ่ายทอด Know How แบบไม่กั๊ก ไม่หวงความรู้ เพื่อโอกาสในการสร้างผลกำไรได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
7. เงินลงทุนไม่สูงเกินไป
ต้องยอมรับว่างบประมาณในการลงทุน เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งการเลือกลงทุนกับธุรกิจที่ใช้งบสูงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเสมอไป เพราะสิ่งที่ได้รับอาจไม่คุ้มค่า แต่ควรเลือกลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีงบลงทุนพอเหมาะ และสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่นักลงทุนจะได้รับนั่นเอง
8. มีแหล่งเงินทุนสำหรับเริ่มต้นธุรกิจ
เพราะเงินลงทุนคือปัจจัยสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ใดก็ตาม ต้องยืนยันกับตนเองให้มั่นใจก่อนว่ามีแหล่งเงินทุนพร้อมและเพียงพอต่อการเริ่มต้นธุรกิจแล้ว หรือถ้ามีธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีคำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนให้ด้วย ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
9. เจ้าของแฟรนไชส์ไม่หยุดพัฒนา
สำหรับสิ่งสำคัญประการสุดท้ายที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ คือควรสังเกตว่าเจ้าของธุรกิจมีการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ของตนเองอยู่อย่างต่อเนื่องหรือไม่ เช่น มีการนำเสนอเมนูใหม่ ๆ หรือรายการสินค้าเพิ่มเติม หรือมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์นั้นยังมีโอกาสที่จะเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ที่ลงทุนได้
ทั้งหมดนี้คือวิธีการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่เราได้รวบรวมมาบอกกัน และสำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุนเพื่อกู้เงินทำธุรกิจ ที่ศรีสวัสดิ์ ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการวงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยยุติธรรม ทั้งยังมีประเภทสินเชื่อให้เลือกอย่างหลากหลาย เช่น สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้านและที่ดิน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ ปรึกษาเจ้าหน้าที่ศรีสวัสดิ์ได้กว่า 5,800 สาขาทั่วประเทศไทย หรือโทร 1652 หรือ LINE Official @srisawad
หมายเหตุ
- สินเชื่อรถ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.04% – 24% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 54 งวด
- สินเชื่อบ้านและที่ดิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 14.61% – 15.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 72 งวด
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด