ต่อใบขับขี่ใช้เอกสารอะไรบ้าง อัปเดตปี 2568 แบบครบจบทุกขั้นตอน

“ใบขับขี่” ใบอนุญาตสำคัญสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะขับรถยนต์หรือขี่มอเตอร์ไซค์ กฎหมายก็กำหนดให้ต้องผ่านการสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อรับใบอนุญาตขับขี่ก่อนเสมอ และยังกำหนดให้ต้องมีการต่อใบขับขี่ทุก ๆ 5 ปี เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนและตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่อีกด้วย

สำหรับใครที่ใบขับขี่กำลังจะหมดอายุแล้วต้องวางแผนไปต่อใบขับขี่ในปี 2568 แต่ยังไม่รู้ว่ามีขั้นตอนอย่างไร สามารถต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้ไหม จำเป็นต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง เรามัดรวมข้อมูลสิ่งที่ควรรู้มาอัปเดตกันแบบครบทุกประเด็นไว้ให้ที่นี่แล้ว!

ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี

สำหรับผู้ที่ถือใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปี และต้องการต่อเป็นใบขับขี่ถาวร 5 ปี มีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนการต่อใบอนุญาตขับขี่

• ตรวจสอบเอกสารและออกคำขอ
• ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง) ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสายตาทางกว้าง ทดสอบปฏิกิริยาเท้า โดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
• ถ่ายรูปและพิมพ์ใบขับขี่

เอกสารที่ต้องใช้

• ใบขับขี่เดิม
• บัตรประชาชนฉบับจริง
• ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ค่าใช้จ่าย

• 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท)

ต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี

สำหรับผู้ที่ถือใบขับขี่ถาวร 5 ปี และต้องการต่ออายุ มีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนการต่อใบอนุญาตขับขี่

• ตรวจสอบเอกสารและออกคำขอ
• ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย (เหมือนกับการต่อแบบ 2 ปีเป็น 5 ปี)
• อบรมต่อใบขับขี่เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
• ถ่ายรูปและพิมพ์ใบขับขี่

เอกสารที่ต้องใช้

• ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน
• บัตรประชาชนฉบับจริง
• ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ค่าใช้จ่าย

• 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท)

ขั้นตอนในการต่ออายุใบขับขี่ฉบับอัปเดตปี 2568

ขั้นตอนที่ 1 อบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์

ถ้ารู้ตัวว่าใบขับขี่ใกล้จะหมดอายุ อันดับแรกที่ต้องทำคือการเข้าอบรมใบอนุญาตขับรถทางทฤษฎีผ่านทางระบบ e-Learning ของกรมการขนส่งทางบกที่เว็บไซต์ https://dlt-elearning.com/ สามารถใช้งานได้ฟรี รองรับการใช้งานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ขั้นตอนที่ 2 จองคิวทำใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน

หลังจากอบรมใบอนุญาตขับรถทางทฤษฎีผ่านเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็ต้องจองคิวทำใบขับขี่ล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android กรอกข้อมูลแล้วเลือกสำนักงานขนส่งและวันที่ที่ต้องการ จากนั้นระบบจะส่ง QR Code ให้คุณ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

ขั้นตอนที่ 3 ทดสอบสมรรถภาพที่สำนักงานขนส่ง

เมื่อถึงวันที่จองคิว คุณก็ต้องไปที่สำนักงานขนส่งที่เลือกไว้ เพื่อทดสอบสมรรถภาพการมองเห็นสี ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบปฏิกิรยาเท้าในการเหยียบเบรกตามสัญญาณไฟ เพื่อเป็นการยืนยันว่าคุณพร้อมจะขับรถอย่างปลอดภัยนั่นเอง

ขั้นตอนที่ 4 ถ่ายรูปเพื่อทำบัตรใหม่

หากการทดสอบสมรรถภาพเสร็จสมบูรณ์ คุณก็สามารถไปถ่ายรูปเพื่อทำใบขับขี่ใบใหม่ได้เลย โดยค่าธรรมเนียมการทำใบขับขี่รถยนต์จะอยู่ที่ 505 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์จะอยู่ที่ 255 บาท หลังจากนั้นก็รอรับบัตรแล้วกลับบ้านได้เลย

ใบขับขี่ต่อออนไลน์ได้ไหม?

สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยว่าแล้วในยุคนี้ที่เราสามารถทำทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์ได้สะดวกสบาย เราจะต่ออายุใบขับขี่แบบออนไลน์ได้หรือไม่ คำตอบก็คือสามารถทำได้เฉพาะขั้นตอนการอบรมต่อใบขับขี่เท่านั้น โดยต้องอบรมผ่านระบบ e-Learning ของกรมการขนส่งทางบกที่เว็บไซต์ https://dlt-elearning.com/ แต่หลังจากอบรมเสร็จ ต้องไปทดสอบสมรรถภาพและทำบัตรใหม่ที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น

เอกสารที่ต้องใช้ในการต่ออายุใบขับขี่

รู้ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่กันไปแล้ว ต่อไปมาดูกันดีกว่าว่าเราต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง เตรียมไว้ให้ครบ รับรองไม่พลาด ไม่ไปสำนักงานขนส่งแบบเสียเที่ยวแน่นอน โดยเอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในการต่ออายุใบขับขี่ มีดังต่อไปนี้

• ใบขับขี่ฉบับเดิม
• บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
• ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายในการขับขี่ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน โดยต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือนนับจากวันที่ขอเท่านั้น
• ภาพแคปหน้าจอผลผ่านการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์

กรณีขาดต่อใบขับขี่จะส่งผลอย่างไร

การขาดต่อใบขับขี่อาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการต่ออายุ โดยมีรายละเอียดดังนี้

กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี

• ต้องสอบข้อเขียนใหม่

กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี

• ต้องสอบข้อเขียนใหม่
• ต้องสอบปฏิบัติขับรถใหม่
• ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ที่ออกให้ไม่เกิน 1 เดือน

นอกจากนี้ การขับขี่โดยใช้ใบขับขี่ที่หมดอายุถือเป็นความผิดตามกฎหมาย อาจถูกปรับหรือดำเนินคดีได้ ดังนั้น ควรต่ออายุใบขับขี่ก่อนวันหมดอายุเสมอ

สรุปต่อใบขับขี่ใช้เอกสารอะไรบ้าง

นอกเหนือจากทั้ง 3 ประเด็นหลักที่ต้องรู้ก่อนไปต่อใบขับขี่แล้ว ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่สำคัญไม่แพ้กันอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาการต่ออายุใบขับขี่ที่สามารถต่อล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ และถ้าหากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี จะต้องสอบใหม่ทั้งข้อเขียนและขับรถ ดังนั้น อย่าลืมหมั่นเช็กอายุใบขับขี่ของตัวเอง เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่กฎหมายกำหนดและไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

แล้วถ้าหากใครมีเหตุจำเป็น ต้องใช้เงินสดเร่งด่วน ก็สามารถนำรถยนต์คันโปรดมาเปลี่ยนเป็นตัวช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้ด้วยสินเชื่อรถยนต์จาก ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน ให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียง 1.00% ต่อเดือน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.85% – 24% ต่อปี พร้อมให้บริการคุณด้วยทีมงานมืออาชีพตลอด 24 ชม. จากประสบการณ์กว่า 40 ปีในวงการสินเชื่อ ด้วยคติการทำงาน “มั่นใจ โปร่งใส และถูกกฎหมาย” พร้อมเติบโต คู่ชาวไทย หากสนใจบริการสินเชื่อสามารถติดต่อได้ที่ ศ. ศาลาสีส้ม ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sawad.co.th หรือโทร. 1652 หรือ LINE Official @srisawad 

หมายเหตุ :

• สินเชื่อรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.85% – 24% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 54 งวด
• กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว 
• เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด