ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่สู้ดี อาจทำให้หลายคนต้องเผชิญกับปัญหา ‘รายรับน้อยลง’ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัทที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือนตามที่ฝัน ไม่ได้โบนัสตามเป้าหมาย หรือพนักงานค้าขายที่ไม่สามารถทำกำไรได้ดีเหมือนแต่ก่อน แต่ในขณะที่รายได้ของเราหดหาย หนี้ที่มีมากมายก็ไม่ได้น้อยลงตามไปด้วย แล้วเราจะมีวิธีบริหารจัดการหนี้อย่างไร? เพื่อให้มีเงินเหลือใช้และเหลือเก็บ บทความนี้มีคำตอบ
รายรับน้อยลงจนแทบไม่พอใช้หนี้? ไม่เป็นไร! ตั้งสติให้ดี แล้ววางแผนใช้หนี้กันก่อน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาเรื่องการเงิน คือปัญหาที่ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตมากที่สุด เมื่อเทียบกับปัญหาในด้านอื่น ๆ จนทำให้หลาย ๆ คนต้องตกอยู่ในภาวะเครียดสะสม ซึ่งนอกจากรายได้ที่ไม่พอใช้แล้ว หากใครที่มีหนี้สินรัดตัวอยู่ด้วย ก็ยิ่งทำให้ทุกข์ใจมากขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ไม่สามารถใช้จ่ายได้ตามที่ต้องการ แต่การเป็นหนี้ ยังทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกตัดโอกาสต่าง ๆ ในชีวิต จากการที่ไม่มีเงินเหลือไปทำในสิ่งที่ชอบ
สำหรับใครที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์รายรับน้อยลงจนไม่พอดีกับรายจ่าย และกำลังกังวลว่าจะทำยังไงให้หมดหนี้ ขอแนะนำให้เริ่มจากการ ‘วางแผนใช้หนี้’ เพื่อให้เรามองเห็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่มี และหาวิธีจัดการหนี้ในลำดับต่อไป โดยเราสามารถวางแผนใช้หนี้ได้ด้วย 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
เมื่อเราสังเกตแล้วว่า รายได้ที่เข้ามาเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ อย่าเพิ่งตกใจ อันดับแรกให้เราทำการแจกแจงหนี้สินทั้งหมดที่มี เพื่อให้เห็นภาพชัด ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ รวมถึงหนี้บัตรเครดิตต่าง ๆ ก็ต้องนำออกมาสรุปให้ครบทุกใบ เพื่อให้รู้ว่าเรามีหนี้อยู่ในมือเท่าไหร่ เป็นหนี้จากอะไรบ้าง ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนจัดการหนี้ที่มีได้อย่างครบถ้วน โดยเราสามารถแจกแจงหนี้สินได้หลายวิธี เช่น วิธีง่าย ๆ อย่างการจดยอดหนี้ทั้งหมดลงบนกระดาษแผ่นเดียวเพื่อให้มองเห็นภาพรวม หรือแจกแจงอย่างละเอียดด้วยการกรอกตัวเลขลงในตาราง Excel และคำนวณยอดรวมทั้งหมดออกมา
ขั้นตอนถัดมาก็คือการสำรวจรายรับและรายจ่าย โดยดูว่าในแต่ละเดือนเรามีรายรับเท่าไหร่ และต้องจ่ายเงินไปกับอะไรบ้าง ถึงจะเป็นค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ต้องสรุปออกมาให้ครบ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า นอกจากหนี้ที่ต้องใช้ ยังมีรายจ่ายส่วนใดอีกบ้างที่เราสามารถปรับให้เหลือน้อยลงได้ โดยเฉพาะใครที่กำลังเจอกับปัญหารายรับน้อยลง ไม่ว่าจะเกิดจากการถูกปรับลดเงินเดือน หรือลูกค้าหดหาย ขายของได้ไม่ดี การทำสรุปรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด จะช่วยให้เรารู้ว่าสถานการณ์การเงินของตัวเองในปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร และต้องจัดการกับรายจ่ายด้วยวิธีไหน เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับจ่ายหนี้ในแต่ละเดือน
- วางแผนการใช้หนี้อย่างเป็นระบบ
มาถึงขั้นตอนสำคัญ นั่นก็คือการวางแผนจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ ด้วยการจัดลำดับความสำคัญของหนี้ เช่น ชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ย หรือเลือกชำระหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดให้หมดก่อน เพื่อให้เรามีกำลังใจในการใช้หนี้ และช่วยให้เรามีเงินเหลือมากขึ้นในเดือนถัด ๆ ไป ซึ่งอาจทำให้เราสามารถใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว และมีเงินเหลือสำหรับเก็บมากขึ้น
- หยุดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และหยุดสร้างหนี้เพิ่ม
ปิดท้ายด้วยการวางแผนจัดการหนี้ข้อที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือการหยุดทุกรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และ หยุดสร้างหนี้เพิ่ม เช่น เปลี่ยนจากการกินอาหารนอกบ้าน เป็นการซื้อวัตถุดิบมาทำเอง เพื่อให้สามารถกำหนดงบค่าอาหารในแต่ละอาทิตย์ได้ หรืองดซื้อเสื้อผ้าใหม่สัก 1 เดือน และหยิบตัวเก่ามาผลัดเปลี่ยนกันใส่ ที่สำคัญก็คือไม่ควรไปเปิดบัตรเครดิตเพิ่มหลาย ๆ ใบ เพียงเพราะต้องการหมุนเงินใช้ให้ผ่านพ้นไปในแต่ละเดือน เพราะสุดท้ายแล้ว การที่เราไม่สามารถหยุดพฤติกรรมนี้ได้ นอกจากจะกลายเป็นการสร้างหนี้ที่บานปลาย ยังอาจทำให้เราต้องทนทุกข์อยู่ในวังวนของการใช้หนี้อย่างไม่รู้จบ
เคล็ด(ไม่)ลับ จัดการหนี้ด้วยการ ‘รวมหนี้’
หลังจากที่เราวางแผนการใช้หนี้เรียบร้อยแล้ว ก็จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมทั้งหมดว่า เรามีหนี้อยู่ในมือเท่าไหร่ จากนั้นก็จะมาสู่การจัดการหนี้ในสเต็ปถัดไป นั่นก็คือการ ‘รวมหนี้‘
การรวมหนี้ คืออะไร
การรวมหนี้ คือ วิธีที่จะช่วยให้เราจัดการหนี้ให้หมดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ต้องแบกรับภาระไปตลอดชีวิต และยังช่วยให้เรามีเงินเหลือไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ อีกด้วย โดยเราสามารถรวมหนี้ได้ด้วยการยื่นขอสินเชื่อเงินสด เพื่อนำเงินที่ได้ไปจ่ายหนี้อื่น ๆ ทั้งหมด ทำให้เราเหลือหนี้จากสินเชื่อเพียงก้อนเดียว ทำยังไงให้หมดหนี้ ในวันที่รายได้เหลือน้อย? เผยวิธีบริหารจัดการหนี้ ที่จะช่วยให้คุณปลดหนี้ได้ไว แถมมีเงินเหลือเก็บเหลือใช้มากขึ้น!
ข้อดีของการรวมหนี้
- ช่วยให้เราจ่ายดอกเบี้ยน้อยกว่าเดิม
โดยปกติแล้วในการขอสินเชื่อเงินสด สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการสินเชื่อต่าง ๆ จะให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิต ดังนั้น หากเรามีทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ หรือหนี้ในส่วนอื่น ๆ การรวมหนี้มาไว้เพียงก้อนเดียว ก็จะช่วยให้เราจ่ายดอกเบี้ยได้น้อยลงกว่าเดิม และอาจช่วยให้เรามีเงินเหลือเก็บมากขึ้น
- ยอดผ่อนชำระต่อเดือนน้อยลง
นอกจากเราจะจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงแล้ว ยอดผ่อนชำระต่อเดือนยังน้อยลงอีกด้วย เพราะจากเดิมที่เราจะต้องจ่ายหนี้หลาย ๆ ยอดในแต่ละเดือน เมื่อจัดการหนี้ด้วยการรวมจนเหลือเพียงก้อนเดียว ก็จะทำให้เราผ่อนชำระแค่ยอดเดียว ซึ่งแน่นอนว่ารายจ่ายในแต่ละเดือนก็จะลดน้อยลง ทำให้สภาพคล่องทางการเงินของเราดีขึ้นตามไปด้วย
- ช่วยลดความสับสนในการชำระหนี้แต่ละครั้ง
เชื่อว่ามีหลายคนไม่น้อยที่ต้องนั่งปวดหัวกับหนี้ที่มีมากมายหลายยอดในแต่ละเดือน แถมกำหนดชำระของแต่ละยอดก็ไม่ตรงกัน จนบางครั้งอาจเผลอลืมจ่ายได้เลยทีเดียว แต่เมื่อเราทำการรวมหนี้ไว้เป็นก้อนเดียวแล้ว ก็จะช่วยลดปัญหาความสับสนในการชำระหนี้ ทำให้เราสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้สะดวก และจ่ายหนี้ได้อย่างตรงเวลา
- ช่วยให้เรารู้ระยะเวลาในการปลดหนี้ที่แน่นอน
อีกหนึ่งข้อดีของการรวมหนี้ที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการจ่ายหนี้ได้มากขึ้น นั่นก็คือการที่เราจะได้รู้ระยะเวลาในการปลดหนี้ที่แน่นอน จากหนี้ยอดเดียวที่เรามีอยู่ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถวางแผนการใช้จ่ายได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดความกังวลจากปัญหาการจ่ายหนี้หลายยอด ที่ไม่ว่าจ่ายเท่าไหร่ก็ดูจะไปไม่ถึงปลายทางเสียที
บริหารจัดการหนี้ให้มีเงินเหลือใช้ มาขอสินเชื่อเงินสดอนุมัติไวกับศรีสวัสดิ์ได้เลย เราให้บริการจัดหาสินเชื่อทุกประเภท วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว ไม่ต้องใช้คนค้ำ เพื่อให้คุณปิดหนี้ได้ไว แถมมีเงินไว้สำรองใช้อีกด้วย!
สมัครง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้เลยที่ศรีสวัสดิ์กว่า 5,500 สาขาทั่วไทย หรือโทร 1652 หรือ LINE Official @srisawad