ถึงทองคำจะเป็นการลงทุนที่ยั่งยืน แต่ในยุคที่เงินสดเป็นเรื่องจำเป็นมากกว่า บริการจำนำทองคำกับโรงรับจำนำและร้านทองก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปลี่ยนทองคำเป็นเงินสดได้ แถมเจ้าของทองคำอย่างเรา ๆ ยังสามารถรักษาสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของทองคำเอาไว้ได้เช่นกัน แต่ก่อนที่จะเดินหน้าเข้าโรงรับจำนำทองคำที่ไหน ลองมาทำความเข้าใจถึง 3 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจนำทองไปจำนำก่อนดีกว่า แต่จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูไปพร้อมกันเลย!
จำนำทองคืออะไร?
หากต้องการใช้บริการได้อย่างถูกต้อง ได้เงินจริง และถูกกฎหมาย เจ้าของทองคำต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า บริการจำนำทองคืออะไร มีรายละเอียดใดที่ต้องใส่ใจให้ดีบ้าง
โดยการจำนำทอง คือ การนำทองคำทั้งแบบแท่งและรูปพรรณไปจำนำกับโรงรับจำนำทองคำที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจเป็นโรงรับจำนำรัฐ โรงรับจำนำเอกชน หรืออาจเป็นร้านทองที่เปิดให้บริการนำทองมาจำนำได้
เมื่อนำทองไปจำนำ และได้ทำการตกลงกับโรงรับจำนำถึงเรื่องราคา ค่างวด ดอกเบี้ย และการเก็บรักษาทองคำเรียบร้อย ซึ่งนอกจากเราจะได้รับเงินสดมาแล้ว ทางโรงรับจำนำยังจะออกเอกสารสำคัญที่เรียกว่า “ตั๋วจำนำ” ไว้ให้เป็นหลักฐานเพื่อรับทองคำคืนในวันครบกำหนด โดยตามกฎหมายแล้ว ตั๋วจำนำนี้จะมีอายุ 4 เดือน 30 วัน หรืออาจตกลงอายุกับทางโรงรับจำนำที่ใช้บริการได้
โดยข้อดีหลัก ๆ ของการนำทองมาจำนำ คือ เจ้าของทองคำนั้นยังจะได้กรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทองคำอยู่ แต่ทองคำนี้จะอยู่ในการดูแลของโรงรับจำนำก่อน และหากเจ้าของชำระค่างวดพร้อมดอกเบี้ยตามสัญญาก็จะได้ทองคำคืน แต่หากไม่ได้มาชำระตามที่ตกลงไว้และไม่มีการยืดอายุตั๋วจำนำ ทองคำก็จะตกเป็นของโรงรับจำนำทองคำทันที
จำนำทอง vs ขายทอง แบบไหนดีกว่ากัน
การตัดสินใจระหว่างการจำนำทองและการขายทองนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละบุคคล โดยการจำนำทองจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนระยะสั้นและไม่อยากสูญเสียกรรมสิทธิ์ในทองคำ เพราะสามารถไถ่ถอนคืนได้เมื่อมีเงิน อีกทั้งยังเหมาะกับช่วงที่ราคาทองมีแนวโน้มลดลง เพราะสามารถรอให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นก่อนได้
ส่วนการขายทองจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินก้อนใหญ่หรือต้องการเงินในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาทองปรับตัวสูงขึ้น แม้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการขาย แต่จะได้เงินเต็มมูลค่าโดยไม่มีภาระดอกเบี้ย
จำนำทองกับโรงรับจำนำของรัฐ และเอกชน ต่างกันอย่างไร
โรงรับจำนำของรัฐ เช่น สถานธนานุเคราะห์และสถานธนานุบาล มีจุดเด่นด้านความน่าเชื่อถือและอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่มักจะประเมินราคารับจำนำต่ำกว่าเอกชน การคิดดอกเบี้ยจะเป็นไปตามนโยบายรัฐ โดยปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลา
ในขณะที่โรงรับจำนำเอกชนจะให้ราคารับจำนำสูงกว่า แต่คิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าเช่นกัน ผู้ใช้บริการควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการและแหล่งที่มาของเงินกู้ให้ดีก่อนตัดสินใจ
วิธีคิดดอกเบี้ยจำนำทอง
การคำนวณดอกเบี้ยจำนำทองไม่ได้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักทอง แต่คิดจากวงเงินต้นที่ได้รับ โดยโรงรับจำนำเอกชนมักคิดดอกเบี้ย 2% สำหรับเงินต้น 2,000 บาทแรก และ 1.25% ต่อเดือนสำหรับส่วนที่เกิน
ส่วนโรงรับจำนำของรัฐจะมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันตามวงเงิน เช่น 0.10% สำหรับวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท 0.50% สำหรับวงเงิน 5,001-15,000 บาท และ 0.75% สำหรับวงเงิน 15,001-100,000 บาท ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยอาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของแต่ละช่วงเวลา
เงื่อนไขการจำนำทอง
โรงรับจำนำที่ได้มาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมายจะมีผู้ประเมินราคาสินทรัพย์ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างถูกต้องตามมาตรฐานโรงรับจำนำรัฐอยู่ โดยเจ้าของทองคำสามารถนำทองคำแท่งและรูปพรรณทั้งประเภท 96.5% และ 99.99% มาให้ประเมินราคาได้ ซึ่งเมื่อได้ราคาที่ตรงกับความต้องการแล้ว สิ่งต่อไปที่เจ้าของทองคำทุกคนควรทำ คือ การทำความเข้าใจดอกเบี้ย วิธีชำระค่างวด ตลอดจนวงเงินที่จะได้รับ ซึ่งจะมีรายละเอียด ดังนี้
วงเงินที่จะได้รับจากการจำนำทอง
ไม่เพียงแต่จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการประเมินราคาเท่านั้น แต่ผู้ประเมินราคาสินทรัพย์ยังพิจารณาราคาจำนำทองคำจากราคาซื้อขายของทองคำในแต่ละประเภทเช่นกัน
โดยส่วนใหญ่แล้ว ทองรูปพรรณจะมีการตีราคาที่น้อยกว่าทองคำแท่ง เพราะทองรูปพรรณนั้นต้องผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ต้องใส่สารต่าง ๆ เช่น น้ำประสานทอง อีกทั้งยังมีค่ากำเหน็จ หรือ ค่าฝีมือช่างรวมอยู่ด้วย
ข้อควรรู้!
โรงรับจำนำทองบางแห่งอาจรับจำนำเครื่องประดับทองคำ แต่อาจทำการแกะอัญมณีต่าง ๆ ออกเพื่อทำการประเมินราคาและจำนำเฉพาะทอง ซึ่งหากใครไม่อยากให้เครื่องประดับเสียหาย อย่าลืมเช็กรายละเอียดให้ดีก่อนนำเครื่องประดับทองคำไปจำนำ
ดอกเบี้ยและการชำระค่างวด
ดอกเบี้ยของการจำนำทองคำจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละสถานที่รับจำนำ ซึ่งหากเป็นโรงรับจำนำเอกชน ดอกเบี้ยสำหรับเงินต้นใน 2,000 บาทแรก จะอยู่ที่ 2% และเมื่อหักเงิน 2,000 บาทไปแล้วก็จะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่เดือนละ 1.25%
แต่หากเป็นโรงรับจำนำของรัฐ อัตราดอกเบี้ยจะเปลี่ยนไปตามนโยบายของรัฐในแต่ละช่วง ซึ่งหากอ้างอิงจากสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 การคิดดอกเบี้ยวงเงิน 5,000 บาทแรกจะอยู่ที่ 0.10% สำหรับวงเงิน 5,001 – 15,000 บาท ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0.50% แต่หากตั้งแต่ 15,001 – 100,000 บาท ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0.75%
ขั้นตอนการไถ่ถอนทองคืนจากโรงรับจำนำ
- เตรียมเอกสารสำหรับไถ่ถอนทอง : จำเป็นต้องมีตั๋วจำนำซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงสิทธิ์ในการไถ่ถอน บัตรประจำตัวประชาชนที่ต้องตรงกับชื่อในตั๋วจำนำ และเตรียมเงินให้พร้อมสำหรับชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามที่ระบุ โดยสามารถตรวจสอบยอดเงินที่ต้องชำระได้จากทางโรงรับจำนำ
- ดำเนินการไถ่ถอนทอง : เริ่มจากนำเอกสารไปแสดงที่โรงรับจำนำที่ฝากไว้ แจ้งความประสงค์ขอไถ่ถอนกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และทำการชำระเงินตามจำนวนที่กำหนด ทั้งนี้หากยังไม่พร้อมไถ่ถอนทั้งหมด สามารถเลือกชำระเฉพาะดอกเบี้ยเพื่อต่ออายุสัญญาได้
- หลังจากชำระเงินครบถ้วน : เจ้าหน้าที่จะนำทองมาคืนให้ ควรตรวจสอบความถูกต้องของทองที่ได้รับคืนทันที ทั้งน้ำหนัก เอกลักษณ์ และสภาพให้ตรงกับที่จำนำไว้ พร้อมเก็บใบเสร็จรับเงินไว้เป็นหลักฐาน การไถ่ถอนควรทำก่อนวันครบกำหนดเพื่อป้องกันการสูญเสียสิทธิ์ในทองคำ
ข้อควรระวังในการจำนำทอง
- ต้องพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือให้ดี เพราะนอกจากจะเสี่ยงโดนตีราคาอย่างไม่เป็นธรรมแล้ว ทองคำก็อาจเสียหาย หรือ โดนขโมยได้
- เช็กวิธีจัดเก็บของแต่ละโรงรับจำนำทองคำให้ดี เพราะหากเก็บไม่ได้มาตรฐาน ไม่เพียงแต่จะเสี่ยงต่อการโดนขโมยเท่านั้น ทองคำก็อาจได้รับความเสียหายได้ด้วยเช่นกัน
- ตรวจสอบแผนการเงินของตัวเองให้ดี เพราะอย่าลืมว่าการจำนำทองคำมีอายุ 4 เดือน 30 วัน ซึ่งหากชำระไม่ทันก็ควรติดต่อทำเรื่องกับโรงรับจำนำ
- หากใครนำทองไปจำนำกับร้านทอง อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือให้ละเอียด เพราะอาจเสี่ยงโดนสลับทอง โดนแกะอัญมณีออกจากทองคำ หรือเจ้าของร้านอาจบอกปัดไปเรื่อย ๆ จนทำให้ตั๋วหมดอายุ ทำให้เสียกรรมสิทธิ์ในทองคำไป ซึ่งกรณีนี้สามารถป้องกันโดยการนำเงินไปวางที่สำนักงานวางทรัพย์แทน
มีทองติดตัวดีกว่า! เพิ่มเงินสดกับ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ”
มีทองท่วมหัวก็อย่าเพิ่งเดินจั่วไปโรงรับจำนำทอง เพราะอย่าลืมว่าทองคำเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งยังสามารถส่งต่อให้กับลูกหลานเพื่อเป็นมรดก หรือเก็บไว้เป็นเงินทุนสำรองในอนาคต ดังนั้น หากใครกำลังมองหาวิธีเพิ่มเงินสดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อัตราดอกเบี้ยสบาย ๆ แถมยังมีทองคำติดตัวให้อุ่นใจ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” ก็มาพร้อมบริการขอสินเชื่อหลากหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเรื่องเงินได้อย่างทันใจ รู้ผลอนุมัติไว วางแผนผ่อนชำระได้อย่างยืดหยุ่น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” ทุกสาขาใกล้บ้าน กรอกข้อมูลเพื่อสมัครสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ โทร 1652 หรือ LINE Official @srisawad
หมายเหตุ
- สินเชื่อรถ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.04% – 24% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 54 งวด
- สินเชื่อบ้านและที่ดิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 14.61% – 15.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 72 งวด
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด