บทความ > ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร เรียกได้เท่าไหร่
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร เรียกได้เท่าไหร่
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร เรียกได้เท่าไหร่

สนใจขอสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว


ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


สนใจทำประกัน ผ่อนเงินสด ไม่มีดอกเบี้ย

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร เรียกได้เท่าไหร่

การทำประกันรถยนต์นอกจากจะให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่ได้เลือกไว้แล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่หลายคนอาจยังไม่ทราบ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ซึ่งเป็นสิทธิที่ผู้เอาประกันควรรู้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ในบทความนี้ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ จะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถอย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการเรียกร้อง ไปจนถึงเอกสารที่จำเป็นต้องใช้

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เงินชดเชยที่ทางบริษัทประกันรถยนต์ของฝ่ายที่เป็นผู้ก่อเหตุ (คู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด) ต้องจ่ายให้กับผู้เสียหาย (คู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก) เนื่องจากไม่สามารถใช้รถได้ในระหว่างที่รถอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม เงินชดเชยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเดินทางทดแทนในช่วงที่ไม่มีรถใช้ เช่น ค่ารถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ค่ารถแท็กซี่ ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ค่าเช่ารถ และค่าใช้จ่ายในการเดินทางอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากไม่มีรถใช้

อยากเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ต้องทำอย่างไร

ขณะที่รถยนต์อยู่ระหว่างการซ่อม คู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูกสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อรับค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถกับทางบริษัทประกันรถยนต์ที่เป็นฝ่ายผิดได้ทันที ในกรณีที่การซ่อมใช้เวลานานเกินกำหนด ผู้เสียหายต้องการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเพิ่มเติม ก็สามารถนำส่งหลักฐานและแจ้งความประสงค์ไปยังบริษัทประกันได้อีกครั้ง แต่ถ้าหากสองฝ่ายตกลงกันไม่ลงตัว ให้ติดต่อไปยังสำนักงาน คปภ. โทร 1186 หรือ 0-2515-3999 เพื่อเป็นตัวกลางในการนัดเจรจา

5 ขั้นตอนการเรียกค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ

การเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถมีขั้นตอนที่ชัดเจน ซึ่งผู้เสียหายควรทำความเข้าใจเพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดย 5 ขั้นตอนการเรียกค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ ดังนี้

1. ติดต่อบริษัทประกันของคู่กรณี

ขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดคือการติดต่อบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด เนื่องจากค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไม่ได้รับการจ่ายโดยอัตโนมัติ ผู้เสียหายต้องแจ้งความประสงค์ในการเรียกร้องด้วยตนเอง โดยจะต้องติดต่อบริษัทประกันทันทีที่รถเข้าอู่ซ่อม แจ้งความประสงค์ในการเรียกค่าขาดประโยชน์อย่างชัดเจน สอบถามเกี่ยวกับเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ และจดบันทึกชื่อเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อด้วยและเบอร์ติดต่อกลับ

2. รวบรวมเอกสารตามที่ร้องขอ

หลังจากติดต่อบริษัทประกัน ขั้นตอนต่อไปคือการรวบรวมเอกสารและหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง โดยเอกสารที่จำเป็นต้องรวบรวมเอกสารค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ค่ารถเมล์ ค่ารถแท็กซี่ ค่ารถไฟฟ้า ค่าเช่ารถ เพื่อนำไปยื่นรับค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถจากบริษัทประกันของคู่กรณี

3. ส่งเอกสารไปยังบริษัทประกันคู่กรณี

เมื่อรวบรวมเอกสารครบถ้วนแล้ว ให้ดำเนินการส่งไปยังบริษัทประกันของคู่กรณี โดยจะต้องตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารอีกครั้งก่อนส่ง รวมทั้งทำสำเนาเอกสารทั้งหมดเก็บไว้เป็นหลักฐาน และถ้าหากส่งทางอีเมล ควรขอการยืนยันการรับเอกสารจากบริษัทประกัน

4. รอการติดต่อกลับเพื่อเจรจาเรื่องเงื่อนไข

หลังจากส่งเอกสารไปแล้ว บริษัทประกันจะใช้เวลาในการพิจารณาและประเมินค่าขาดประโยชน์ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 7-14 วันทำการ ในระหว่างนี้ควรติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบกรณีของคุณ และเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจาต่อรอง หากจำนวนเงินที่บริษัทประกันเสนอมาไม่เป็นที่พอใจ รวมถึงรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมที่อาจเป็นประโยชน์ในการเจรจา เช่น ราคาค่าเช่ารถในท้องตลาด หรือค่าเดินทางโดยเฉลี่ยต่อวัน

5. รอผลอนุมัติเพื่อรับค่าชดเชยตามที่ตกลง 

เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้ว บริษัทประกันจะดำเนินการอนุมัติและสั่งจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถให้แก่คุณ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 7 วันทำการ สิ่งที่ควรทำในขั้นตอนนี้คือการตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนเงินที่ได้รับ เก็บหลักฐานการรับเงินไว้อย่างดี หากมีข้อผิดพลาดใด ๆ ให้แจ้งบริษัทประกันทันที

เอกสารที่ใช้เรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 

การเตรียมเอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องเป็นปัจจัยสำคัญในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ประกอบด้วย

  • ใบเคลม เอกสารที่ออกโดยบริษัทประกันเพื่อยืนยันการรับแจ้งเหตุ
  • ใบเสนอรายการความเสียหาย เอกสารจากอู่ซ่อมรถที่แสดงรายละเอียดความเสียหายและประมาณการค่าซ่อม
  • สำเนาบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนของผู้เรียกร้อง
  • สำเนาใบขับขี่รถยนต์ เพื่อแสดงว่าผู้เรียกร้องมีสิทธิ์ในการขับขี่รถยนต์
  • สำเนาทะเบียนรถยนต์ เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของรถ
  • สำเนาตารางกรมธรรม์ แสดงรายละเอียดความคุ้มครองของประกันภัย
  • ใบรับรถ เอกสารที่ออกโดยอู่ซ่อมเมื่อนำรถเข้าซ่อม
  • รูปถ่ายรถก่อนส่งซ่อม แสดงสภาพความเสียหายของรถก่อนเข้าซ่อม
  • รูปถ่ายรถขณะซ่อม เพื่อยืนยันว่ารถอยู่ในระหว่างการซ่อมจริง
  • หนังสือเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เอกสารที่ผู้เรียกร้องเขียนขึ้นเพื่อแจ้งความประสงค์ในการเรียกค่าขาดประโยชน์
  • ใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หลักฐานค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในระหว่างที่ไม่มีรถใช้
  • สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร สำหรับการโอนเงินค่าชดเชย

การชดเชยค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สูงสุดกี่วัน 

การพิจารณาค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถเบื้องต้นจะได้รับการชดเชย 15-20 วัน ในกรณีที่รถยนต์ไม่สามารถซ่อมเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด สามารถส่งหลักฐานเพื่อรับสิทธิ์เพิ่มเติมได้สูงสุด 120 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละบริษัทประกันรถยนต์ 

สรุปบทความค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ผู้ทำประกันรถยนต์จะได้รับความคุ้มครอง ถึงแม้ไม่มีรถใช้ระหว่างส่งซ่อม แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสามารถเรียกเก็บภายหลังกับทางบริษัทประกันของคู่กรณีได้ มาสร้างความมั่นใจในการขับขี่รถด้วยการเลือกแผนประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ สามารถอ่านรายละเอียดกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรถยนต์เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ การันตีคุณภาพ ได้รับคุ้มครองทันทีหลังทำประกัน

สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจทำประกันรถยนต์อยู่ สามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้ทุกสาขาของ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ หรือโทร. 1652 พร้อมติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์หรือโปรโมชันได้ที่เว็บไซต์ www.sawad.co.th หรือ LINE Official : @srisawad มีเจ้าหน้าที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ พร้อมดูแลลูกค้าทุกคนอย่างใกล้ชิด

Share This