บทความ > ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก กับ ดอกเบี้ยคงที่ แบบไหนดีกว่ากัน
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก กับ ดอกเบี้ยคงที่ แบบไหนดีกว่ากัน
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก กับ ดอกเบี้ยคงที่ แบบไหนดีกว่ากัน

สนใจขอสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว


ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


สนใจทำประกัน ผ่อนเงินสด ไม่มีดอกเบี้ย

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก กับ ดอกเบี้ยคงที่ แบบไหนดีกว่ากัน

การขอสินเชื่อไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล สิ่งที่ผู้กู้ต้องพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ คือเรื่องของดอกเบี้ย ซึ่งมีรูปแบบการคำนวณที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะดอกเบี้ยลดต้นลดดอกและดอกเบี้ยคงที่ ทั้งสองรูปแบบนี้ส่งผลโดยตรงต่อจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายคืนในระยะยาว การเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้คุณเลือกรูปแบบสินเชื่อที่เหมาะสมและประหยัดดอกเบี้ยได้มากขึ้น วันนี้ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ จะมาอธิบายเรื่องนี้ให้เอง

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คืออะไร

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คือ วิธีการคำนวณดอกเบี้ยที่คิดจากยอดเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด ทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลดลงเรื่อยๆ ตามจำนวนเงินต้นที่ลดลง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ยอดหนี้ลดลงตามจำนวนเงินที่ผ่อนชำระจริง โดยเฉพาะในช่วงท้ายๆ ของสัญญา จะเห็นว่าดอกเบี้ยลดลงอย่างมาก

หลักการคิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอก

การคํานวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอกจะอิงจากเงินต้นที่คงเหลือจริงในแต่ละงวด ไม่ได้คิดจากเงินต้นตั้งต้นตลอดอายุสัญญา ดังนั้น เมื่อผู้กู้ผ่อนชำระไปเรื่อย ๆ ยอดเงินต้นจะลดลง ส่งผลให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดถัดไปลดลงตามไปด้วย นี่คือข้อดีของลดต้นลดดอก คือ ดอกเบี้ยจะลดลงตามยอดเงินต้นที่ลดลง ทำให้ประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว

วิธีคำนวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอก

การคํานวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอกอาจดูซับซ้อนในครั้งแรก แต่เมื่อเข้าใจหลักการแล้วจะเห็นว่ามีความเป็นธรรมต่อผู้กู้ เพราะคิดดอกเบี้ยตามเงินต้นที่เหลือจริง สูตรในการคำนวณมีดังนี้:

ดอกเบี้ยต่องวด = (เงินต้นคงเหลือ × อัตราดอกเบี้ยต่อปี (%)) ÷ 12 (สำหรับการผ่อนรายเดือน)

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกู้เงิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 12% ต่อปี ผ่อนชำระ 12 เดือน จะมีการคำนวณ ดังนี้

เดือนที่ 1

  • ดอกเบี้ย = (100,000 × 12%) ÷ 12 = 1,000 บาท
  • เงินต้นที่ชำระ = ค่างวด – ดอกเบี้ย = 8,884 – 1,000 = 7,884 บาท
  • เงินต้นคงเหลือ = 100,000 – 7,884 = 92,116 บาท

เดือนที่ 2

  • ดอกเบี้ย = (92,116 × 12%) ÷ 12 = 921 บาท
  • เงินต้นที่ชำระ = 8,884 – 921 = 7,963 บาท
  • เงินต้นคงเหลือ = 92,116 – 7,963 = 84,153 บาท

และคำนวณแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบกำหนดชำระ จะเห็นว่าดอกเบี้ยที่จ่ายในแต่ละงวดจะลดลงเรื่อย ๆ

ดอกเบี้ยคงที่ คืออะไร

ดอกเบี้ยคงที่ คือ วิธีการคำนวณดอกเบี้ยแบบเหมารวมที่คิดจากเงินต้นเต็มจำนวนตลอดระยะเวลากู้ แล้วนำมาเฉลี่ยเท่าๆ กันในแต่ละงวด ทำให้ยอดผ่อนและดอกเบี้ยที่จ่ายในแต่ละงวดเท่ากันตลอดอายุสัญญา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่งวดแล้วก็ตาม

หลักการคิดดอกเบี้ยคงที่

การคํานวณดอกเบี้ยคงที่จะใช้ยอดเงินต้นตั้งต้นคูณกับอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการกู้ยืม แล้วนำมาหารเฉลี่ยเท่าๆ กันตลอดระยะเวลาการผ่อนชำระ ทำให้ค่างวดเท่ากันทุกเดือน ง่ายต่อการวางแผนการเงิน แต่ข้อเสียคือผู้กู้จะจ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่าระบบลดต้นลดดอก

วิธีคำนวณดอกเบี้ยคงที่

วิธีคํานวณดอกเบี้ยคงที่มีความตรงไปตรงมาและเข้าใจง่ายกว่าระบบลดต้นลดดอก โดยมีสูตร ดังนี้

  • ดอกเบี้ยรวม = เงินต้น × อัตราดอกเบี้ยต่อปี × จำนวนปี
  • ค่างวดต่อเดือน = (เงินต้น + ดอกเบี้ยรวม) ÷ จำนวนงวด

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกู้เงิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี ผ่อนชำระ 12 เดือน จะมีการคำนวณ ดังนี้

  • ดอกเบี้ยรวม = 100,000 × 6% × 1 = 6,000 บาท
  • ค่างวดต่อเดือน = (100,000 + 6,000) ÷ 12 = 8,833 บาท

ดังนั้น ในแต่ละเดือนคุณจะจ่ายค่างวดเท่ากันคือ 8,833 บาท โดยแบ่งเป็นเงินต้น 8,333 บาท และดอกเบี้ย 500 บาทเท่ากันทุกเดือน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่งวดก็ตาม

เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของดอกเบี้ยทั้ง 2 ประเภท

การตัดสินใจเลือกระหว่างดอกเบี้ยลดต้นลดดอกกับดอกเบี้ยคงที่ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่อัตราดอกเบี้ยที่แสดงเท่านั้น เพราะแม้อัตราดอกเบี้ยคงที่จะต่ำกว่า แต่เมื่อคำนวณดอกเบี้ยรวมตลอดอายุสัญญาแล้วอาจไม่ได้ประหยัดกว่า

เปรียบเทียบยอดดอกเบี้ยรวม

เมื่อเปรียบเทียบดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายตลอดอายุสัญญา วิธีดอกเบี้ยลดต้นลดดอกมักจะประหยัดกว่า โดยเฉพาะในสินเชื่อระยะยาว เช่น สินเชื่อบ้านที่มีระยะเวลาผ่อนชำระ 20-30 ปี ต่างจากดอกเบี้ยคงที่ที่คิดดอกเบี้ยจากเงินต้นเต็มจำนวนตลอดอายุสัญญา ทำให้จ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่า ในการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยทั้งสองแบบ เราสามารถแปลงอัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกโดยประมาณด้วยการคูณด้วย 1.8 เช่น หากดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ 6% จะเทียบเท่ากับดอกเบี้ยลดต้นลดดอกประมาณ 10.8%

เปรียบเทียบค่างวดต่อเดือน

ค่างวดในระบบดอกเบี้ยคงที่จะเท่ากันทุกเดือนตลอดอายุสัญญา ทำให้ง่ายต่อการวางแผนการเงิน ในขณะที่ลดต้นลดดอก แม้ค่างวดรวมอาจเท่ากันทุกเดือน แต่สัดส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละงวดจะเปลี่ยนไป โดยช่วงแรกจะจ่ายดอกเบี้ยมากกว่า แต่เมื่อผ่านไปหลายงวด สัดส่วนเงินต้นจะมากขึ้นเรื่อยๆ

หากเปรียบเทียบค่างวดระหว่างทั้งสองแบบที่มีดอกเบี้ยทั้งหมดเท่ากัน ค่างวดของดอกเบี้ยคงที่มักจะต่ำกว่าในช่วงต้นของสัญญา ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและต้องการค่างวดที่น้อยกว่าในช่วงแรก

เปรียบเทียบความยืดหยุ่น

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกมีความยืดหยุ่นมากกว่าในแง่ของการชำระเงินก่อนกำหนด หรือการชำระเงินเพิ่มเติม (การโปะ) เพราะจะช่วยลดเงินต้นได้ทันที ส่งผลให้ลดดอกเบี้ยในงวดถัดไปด้วย ทำให้ประหยัดดอกเบี้ยได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในขณะที่ดอกเบี้ยคงที่ การชำระเงินก่อนกำหนดอาจไม่ได้ประโยชน์มากนัก เพราะดอกเบี้ยถูกคำนวณไว้ล่วงหน้าแล้ว เว้นแต่ธนาคารจะมีนโยบายให้ส่วนลดดอกเบี้ยสำหรับการปิดบัญชีก่อนกำหนด ซึ่งมักไม่คุ้มค่าเท่ากับระบบลดต้นลดดอก

เปรียบเทียบกรณีปิดยอดก่อนกำหนด

การปิดยอดก่อนกำหนดในสินเชื่อที่ใช้ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะเมื่อชำระเงินต้นหมด ก็ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยอีกต่อไป ในขณะที่ดอกเบี้ยคงที่ ธนาคารอาจคิดค่าปรับหรือให้ส่วนลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะดอกเบี้ยถูกคำนวณจากยอดเงินต้นเต็มจำนวนตั้งแต่ต้น

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกู้เงิน 100,000 บาท ผ่อน 5 ปี แต่ต้องการปิดยอดหลังจากผ่อนไปแล้ว 3 ปี ในระบบลดต้นลดดอก คุณจะจ่ายดอกเบี้ยเฉพาะเงินต้นคงเหลือเท่านั้น แต่ในระบบดอกเบี้ยคงที่ คุณอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการปิดบัญชีก่อนกำหนด หรือไม่ได้รับส่วนลดดอกเบี้ยที่ควรจะได้เต็มจำนวน

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก กับ ดอกเบี้ยคงที่ สรุปแล้วแบบไหนดีกว่ากัน 

โดยส่วนใหญ่แล้วทางผู้ให้บริการสินเชื่อ จะเป็นคนกำหนดรูปแบบดอกเบี้ยที่เหมาะสมไว้ให้ แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบใด สิ่งสำคัญคือการเข้าใจวิธีการคํานวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอกและดอกเบี้ยคงที่ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบและเลือกสินเชื่อที่ให้ประโยชน์สูงสุด หากต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ พร้อมให้คำแนะนำและบริการสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้านและที่ดิน  สินเชื่อรถบรรทุก และ สินเชื่อรถเพื่อการเกษตร และที่มีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม โปร่งใส ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ด้วยขั้นตอนการพิจารณาที่รวดเร็ว หากเอกสารครบถ้วน ขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ทำให้คุณได้เงินก้อนสะดวกขึ้น เพราะเรามุ่งมั่นให้บริการด้วยหลักการทำงาน “มั่นใจ โปร่งใส และถูกกฎหมาย” ทำสัญญาแล้วได้คู่สัญญาทันที จากประสบการณ์กว่า 40 ปี สามารถติดต่อได้ที่ ศ. ศาลาสีส้มทุกสาขาใกล้บ้านคุณ แอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์” พร้อมให้บริการบนทั้งระบบ iOS และ Android  หรือ www.sawad.co.th LINE Official: @srisawad และ. โทร. 1652 เพื่อรับคำปรึกษาฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย

หมายเหตุ

  • สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.04% – 24.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 36 งวด
  • สินเชื่อรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.85% – 24.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 54 งวด
  • สินเชื่อบ้านที่ดิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 14.61% – 15.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 72 งวด
  • สินเชื่อรถบรรทุก อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 19.66% – 24.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 54 งวด
  • สินเชื่อรถการเกษตร อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 21.42% – 24.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 36 งวด
  • ระยะเวลาการได้รับเล่มคืนภายใน 10 วันทำการหลังชำระยอดปิดบัญชี
  • ระยะเวลาการได้รับโฉนดคืนภายใน 15 วันทำการหลังชำระยอดปิดบัญชี
  • กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
  • เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
Share This