สำหรับคนที่ค่อนข้างชำนาญในการขับรถ หรือไม่ได้มีรถใหม่ป้ายแดงขนาดที่ต้องทำประกันครอบคลุมทุกกรณีหลาย ๆ คนคงเลือกตกลงปลงใจกับประกันชั้น 2 ที่มีราคาค่าเบี้ยถูกกว่าชั้น 1 และชดเชยความเสียหายให้คู่กรณีครบ แต่ปัจจุบัน หากคุณเพิ่มเงินอีกเพียงนิดเดียวก็สามารถทำ ประกันชั้น 2+ ที่มีความคุ้มครองแทบจะเหมือนชั้น 1 แต่ค่าเบี้ยถูกกว่ากันหลายพันบาทเลยทีเดียวได้เหมือนกัน อยากรู้ไหมว่าความแตกต่างที่เครื่องหมาย “+” จะมอบความคุ้มค่าอะไรให้คุณได้อีกบ้าง ต้องอ่านบทความนี้ให้จบ!
พาส่องความคุ้มครองของประกันชั้น 2 กันก่อน
มาทวนความจำกันหน่อยว่าประกันชั้น 2 ที่คุณเคยรู้จักนั้นคุ้มครองอะไรบ้าง
- อันดับแรกเป็นการคุ้มครองกรณีที่ให้ตามมาตรฐาน คือรับผิดชอบความเสียหายทางร่างกายและชีวิต รวมไปถึงค่าซ่อมรถด้วย
- คุ้มครองกรณีรถคุณถูกไฟไหม้ สูญหาย และภัยธรรมชาติ
- ให้ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายตามปกติเลย ทั้งประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และเงินประกันตัวผู้ขับขี่
- แต่ไม่ครอบคลุมค่าซ่อมรถของคุณหากเกิดอุบัติเหตุทุกกรณี
ประกันชั้น 2 VS. ประกันชั้น 2+ แตกต่างกันอย่างไร
ทีนี้ก็ข้ามฝั่งมาดูประกันชั้น 2+ กันบ้าง แม้จะเป็นญาติกับประกันชั้น 2 แต่ความคุ้มครองเป็นน้องแค่ประกันชั้น 1 แค่นิดเดียวเท่านั้น!
- ประกันภัยชั้น 2+ รับผิดชอบค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีเช่นเดียวกันตามมาตรฐานที่ประกันทุกชั้นต้องมี
- มอบความคุ้มครองเพิ่มเติมตามเอกสารแนบท้ายเหมือนกัน
- จุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนและทำให้หลายคนเทใจให้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือ ให้ความคุ้มครองตัวรถของคุณ (ผู้เอาประกันภัย) ครบทั้งกรณีสูญหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ และการชนกับยานพาหนะทางบก แต่มีเงื่อนไขคือต้องเป็นการชนที่มีคู่กรณีเท่านั้น จึงแตกต่างจากประกันชั้น 2 ที่ไม่คุ้มครองการชนในทุกกรณี
ประกันชั้น 2+ เหมาะกับใคร มีเงื่อนไขอะไรที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อ
เห็นความคุ้มครองจัดเต็มทุกความจำเป็นขนาดนี้แล้ว บอกเลยว่าประกันชั้น 2+ เหมาะกับผู้ใช้รถแทบจะทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ รถเก่า ขับน้อย ขับมาก หากต้องการความอุ่นใจรอบด้านในราคาประหยัด ประกันประเภทนี้คือคำตอบ
- เหมาะกับรถที่อายุไม่เกิน 25 ปี
- ผู้ที่มีความชำนาญในการขับรถในระดับหนึ่ง และค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่เลี้ยวหรือถอยชนกับสิ่งกีดขวางบนท้องถนน เช่น เสาไฟ กำแพง เพราะหากรถบุบหรือขูดขีดจะไม่สามารถเคลมได้
- ผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ แต่ต้องการความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1
- และยังเหมาะกับทุกคนที่ต้องการความสบายใจ เพราะอุบัติเหตุไม่เคยบอกกล่าวล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม สำหรับเงื่อนไขในการเคลมประกันชั้น 2+ นั้น ต้องสามารถระบุคู่กรณีได้ ไม่ใช่การชนแล้วหนี และรถยนต์ของคู่กรณีต้องเป็นรถที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้อง
เทคนิคเลือกซื้อประกันภัยชั้น 2+ จากบริษัทไหนชัวร์สุด
เพื่อให้ได้ประกันชั้น 2+ จากบริษัทที่ถูกใจ แถมยังเคลมง่าย ไม่จุกจิกหรือยุ่งยาก อย่าลืมทำตามเทคนิคเหล่านี้ก่อนตัดสินใจจ่ายเงิน
- ไม่ว่าจะซื้อเองกับบริษัทประกันหรือผ่านนายหน้าตัวแทน ให้เลือกซื้อประกันจากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จัก เพราะหากเกิดปัญหาใด ๆ จะได้ตามเรื่องง่าย
- อ่านเงื่อนไขก่อนว่าซ่อมอู่หรือซ่อมห้าง เพราะส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน ซ่อมห้างนั้นเบี้ยจะแพงกว่าแต่มั่นใจเรื่องอะไหล่แท้และการบริการ ส่วนซ่อมอู่มีราคาที่ประหยัดกว่า แต่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอู่นั้นด้วย
- เลือกจากบริษัทที่คุ้มครองทันที ไม่ต้องมีระยะเวลารอคอย
- เลือกซื้อประกันกับบริษัทที่มีให้ผ่อนจ่าย 0% หลายงวดเพื่อความสบายกระเป๋า และมีช่องทางในการจ่ายค่าเบี้ยตามที่คุณสะดวก เช่น จ่ายเงินสดได้
ซื้อประกันรถยนต์กับศรีสวัสดิ์ ดีกว่าอย่างไร?
ใครอยากซื้อประกันที่คุ้มครองครบทุกเรื่องที่จำเป็นอย่างประกันชั้น 2+ ที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ เรามีประกันจากหลากหลายบริษัทชั้นนำให้คุณเลือก พร้อมให้คุณสัมผัสความสะดวกและอุ่นใจยิ่งขึ้นกับการซื้อประกันผ่านเรา
- ผ่อนสบายกว่าเห็น ๆ เพราะที่นี่ผ่อน 0% นานสูงสุดติดกัน 12 งวด
- ผ่อนเงินสดง่าย ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- คุ้มครองทันที ไม่ต้องรอ
นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อซื้อและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้สะดวกสุด ๆ ที่สาขาของศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ซึ่งมีให้บริการทั่วถึงกว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศ หรือโทรเลยที่เบอร์ 1652
เพราะนอกจากอุบัติเหตุจะเกิดได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว บางครั้งแม้คุณระวังอย่างดีก็อาจหนีปัจจัยอื่นไม่พ้น เช่น สภาพอากาศหรือรถคันอื่นที่นอกเหนือการควบคุม ดังนั้น อย่าลืมซื้อประกันชั้น 2+ ที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ เอาไว้จะได้อุ่นใจตลอดการเดินทาง