3 วิธีเช็ก ‘สินเชื่อเงินด่วน 15 นาทีโอนเข้าบัญชี’ ด้วยตัวเอง
‘สินเชื่อเงินด่วน 15 นาที พร้อมโอนเข้าบัญชี แถมผ่อนรายเดือนได้ตามใจ’ เมื่อได้ยินแบบนี้ หรือตอนนี้กำลังต้องการเงินด่วนพร้อมใช้อยู่ด้วยแล้ว ไม่ว่าใครก็ย่อมรู้สึกสนใจและอยากลองใช้บริการอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะรีบดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หรือส่งเอกสารส่วนตัวให้เพื่อขอสินเชื่อเงินสดกับใคร ลองมาเช็กให้ชัวร์ตาม 3 วิธีที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกัน
1. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อน
การขอสินเชื่อเงินสดกับธนาคารและสถาบันการเงิน ไม่เพียงแต่จะใช้เอกสารหลายรายการเท่านั้น แต่ยังใช้เวลาในการอนุมัติที่ค่อนข้างนาน ส่งผลให้ใครหลายคนได้รับเงินก้อนไปเสริมสภาพคล่องไม่ทันและทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ทั้งภาระหนี้สิน บิลค่าน้ำค่าไฟค้างจ่าย หรือแม้แต่ค่าเทอมลูกที่ยังผ่อนชำระไม่ครบ
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น การใช้บริการเงินด่วน 15 นาทีแบบโอนเข้าบัญชีทันที ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยเสมอไป เนื่องจากบริการเงินด่วนที่ให้เงินได้อย่างรวดเร็วนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นมิจฉาชีพและเงินกู้นอกระบบได้
ดังนั้น เมื่อเจอโฆษณา ‘เงินด่วน 15 นาที พร้อมโอนเข้าบัญชี แถมผ่อนรายเดือนได้’ เมื่อไหร่ ขอแนะนำให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการอย่างรอบด้านตามขั้นตอน ดังนี้
- ตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการกับธนาคารแห่งประเทศไทยผ่านทางเว็บไซต์ https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck หรือโทรศัพท์สอบถามไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยโดยตรง
- โทรศัพท์สอบถามกับทางบริษัทที่ได้รับการแอบอ้าง เช่น หากมีผู้เสนอกู้สินเชื่อเงินสดกับทาง ‘ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ’ ผ่านการโทร หรือให้ติดตั้งแอปพลิเคชันผ่านลิงก์ อย่าลืมโทรศัพท์มาสอบถามที่ 1652 ก่อนเสมอ เนื่องจาก ‘ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ’ ไม่มีนโยบายดังกล่าว
- ติดตามข่าวสารเป็นประจำ ทั้งจากบริษัทที่ได้รับการแอบอ้าง และสำนักข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อตรวจสอบว่าทางบริษัทมีนโยบายการให้บริการแบบที่พบเจอหรือไม่ จะได้เท่าทันต่อมิจฉาชีพและเงินกู้นอกระบบ
2. เช็กเงื่อนไขการขอสินเชื่อเงินสดให้ครบถ้วน
ตามประมวลกฎหมายแพ่งระบุว่า ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อรายย่อยเพื่อธุรกิจ ต้องมีอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี แต่หากเป็นธุรกิจทางการเงินภายในการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศจะมีอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 15% ต่อปีได้
โดยประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อภายใต้การกำกับ ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ได้กำหนดไว้ว่า
- ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมใด ๆ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับจากผู้บริโภค เมื่อคำนวณรวมกันแล้วแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ต้องไม่เกินร้อยละ 25 ต่อปี สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน และต้องไม่เกินร้อยละ 24 ต่อปี สำหรับสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน
- ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมใด ๆ เกี่ยวกับสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับจากผู้บริโภค เมื่อคำนวณรวมกันแล้วแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ต้องไม่เกินร้อยละ 33 ต่อปี
- ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมใด ๆ เกี่ยวกับบัตรเครดิตจากผู้บริโภค เมื่อคำนวณรวมกันแล้วแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ต้องไม่เกินร้อยละ 16 ต่อปี
ดังนั้น เมื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการสินเชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดของอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
หากมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า 15% แต่ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน หรือไม่มีฐานข้อมูลกับธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นเงินกู้นอกระบบ หรือมิจฉาชีพ ซึ่งหากพบเจอกรณีดังกล่าวนี้เมื่อไหร่ ต่อให้จะได้รับ ‘เงินด่วน 15 นาที พร้อมโอนเข้าบัญชี’ ก็ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง
นอกจากอัตราดอกเบี้ยแล้ว ผู้ที่สนใจขอสินเชื่อยังควรตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมกับการขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อ และอื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการโดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินก่อนเพื่อรับเงินก้อนใหม่ โดยปกติแล้ว สินเชื่อเงินสดจากสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือจะไม่มีนโยบายให้โอนเงินบางส่วนเพื่อแลกเงินก้อน
ที่สำคัญ อย่าลืมเช็กเงื่อนไขการผ่อนชำระ หลักทรัพย์/บุคคลค้ำประกัน ตลอดจนการไถ่ถอนทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมตัวขอสินเชื่อ ตลอดจนป้องกันมิจฉาชีพและเงินกู้นอกระบบที่หลอกให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่สามารถจ่ายเงินต้นได้
3. เท่าทันความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ
เมื่อต้องการเงินด่วนมาเสริมสภาพคล่อง ไม่ว่าใครก็มองหาเงื่อนไขการขอสินเชื่อเงินสดที่สะดวกและรวดเร็วมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ มิจฉาชีพสินเชื่อออนไลน์ส่วนใหญ่จึงเน้นการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยการออกโฆษณาชวนเชื่ออย่าง ‘เงินด่วน 15 นาที พร้อมโอนเข้าบัญชี’ หากหลวมตัวตกเป็นเหยื่อเมื่อไหร่ นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังอาจเสี่ยงที่เงินจะหมดบัญชี เป็นหนี้นอกระบบไม่รู้ตัว ทั้งยังเป็นอันตรายต่อชีวิตของคนที่รักรอบข้างทั้งหมดอีกด้วย
ดังนั้น เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ นอกจากจะตรวจสอบความน่าเชื่อถือและเงื่อนไขการขอสินเชื่อที่เป็นไปตามกฎหมายแล้ว ก่อนขอสินเชื่อเงินสดทุกครั้ง อย่าลืมเช็กความผิดปกติตามเช็กลิสต์ ดังนี้
- ผู้ให้บริการสินเชื่อให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับการรับรองจาก App Store และ Google Play Store หรือต้องดาวน์โหลดจากลิงก์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
- ผู้ให้บริการสินเชื่อมีการส่ง SMS พร้อมแนบลิงก์มาให้ ซึ่งหากกดลิงก์ดาวน์โหลดเมื่อไหร่ มิจฉาชีพก็สามารถเข้าถึงการควบคุมบนโทรศัพท์ได้ทันที ทำให้เสี่ยงที่เงินจะหมดบัญชีและตามสืบได้ยาก
- ผู้ให้บริการสินเชื่อมีการแอบอ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อบังคับให้โอนเงินมาตรวจสอบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การโอนเงินให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบนั้นไม่สามารถทำได้
- ผู้ให้บริการมีการโทรศัพท์ให้ทำธุรกรรมทางโทรศัพท์ หากไม่อยากพลาดตกเป็นเหยื่อ อย่าลืมติดตั้งแอปพลิเคชัน Whoscall และอัปเดตข้อมูลเป็นประจำด้วย
สำหรับใครที่สนใจขอสินเชื่อเงินสดแล้วพบเจอกับความผิดปกติข้อใดข้อหนึ่งนี้ ขอแนะนำให้รีบลบแอปพลิเคชัน หรือเลิกการติดต่อทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นมิจฉาชีพ เงินกู้นอกระบบ เสี่ยงต่อการสูญเงินทั้งหมดและการเป็นหนี้เพิ่มโดยไม่ทันตั้งตัว
อย่างไรก็ดี เพื่อความปลอดภัย ควรขอสินเชื่อที่เชื่อถือได้ ได้รับการรับรองถูกต้อง เพียงเท่านี้ทุกคนก็มีเกราะป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพสินเชื่อออนไลน์ แม้จะไม่ใช่สินเชื่อเงินด่วน 15 นาทีที่โอนเข้าบัญชีผ่านแอปต่าง ๆ แต่ ‘ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ’ มาพร้อมบริการสินเชื่อเงินสดที่ถูกต้องตามกฎหมาย อนุมัติไวภายใน 15 นาที เพียงแค่มีสินทรัพย์ที่สามารถนำมาประเมินและจำนองได้ ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องเงินแบบทันใจ อนุมัติสินเชื่อไว เงื่อนไขไม่วุ่นวาย หากสนใจปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้เลยที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ กว่า 5,500 สาขาทั่วไทยหรือโทร 1652 หรือ LINE Official @srisawad
ข้อมูลอ้างอิง: อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (P-Loan) สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (Nano Finance) และบัตรเครดิต (Credit Card). สืบค้นเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2567