บทความ > สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจยื่นขอเงินกู้เพื่อการศึกษา
ธนบัตรและเหรียญสื่อถึงเงินกู้เพื่อการศึกษา
สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจยื่นขอเงินกู้เพื่อการศึกษา

สนใจขอสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว


ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


สนใจทำประกัน ผ่อนเงินสด ไม่มีดอกเบี้ย

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจยื่นขอเงินกู้เพื่อการศึกษา

เพราะการศึกษามีต้นทุน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จ่ายได้ ดังนั้น จึงมีแหล่งเงินกู้เพื่อการศึกษามากมายเพื่อเป็นตัวช่วยสำหรับปัญหาดังกล่าว และสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแหล่งเงินกู้เพื่อการศึกษา บทความนี้จะมาตอบทุกข้อสงสัยว่าเงินกู้เพื่อการศึกษามีอะไรบ้าง เพื่อการวางแผนที่ยั่งยืน ติดตามได้เลย

ธนบัตรและเหรียญสื่อถึงเงินกู้เพื่อการศึกษา

ประเภทของเงินกู้เพื่อการศึกษา

จุดเริ่มต้นของเงินกู้เพื่อการศึกษาในประเทศไทย เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2497 รัฐบาลได้จัดตั้ง “กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา” ขึ้น เพื่อช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความมุ่งมั่นใฝ่หาความรู้ กองทุนนี้ดำเนินการโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในระยะแรก ก่อนที่จะมีการพัฒนา ปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเรื่อย ๆ เพื่อให้เข้ากับสภาพสังคมมากที่สุด จนกระทั่งปัจจุบัน เงินกู้เพื่อการศึกษาไม่ได้จำกัดผู้ดำเนินการอยู่แค่องค์กรรัฐเท่านั้น แต่สถาบันการเงินเอกชนก็สามารถให้บริการเงินกู้เพื่อการศึกษา หรือที่เรียกว่า “สินเชื่อเพื่อการศึกษา” ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 แหล่งมีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

กองทุนเพื่อการศึกษารัฐบาล

กองทุนเพื่อการศึกษารัฐบาล หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีจุดประสงค์เพื่อเป็นทุนทรัพย์ให้แก่ผู้ขาดแคลนให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษามากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการให้กู้ยืมไปก่อน จากนั้นเมื่อสำเร็จการศึกษา ก็ค่อยผ่อนชำระคืน หรือจะเลือกโปะชำระทั้งก้อนเลยก็ทำได้เช่นกัน คุณสมบัติเด่นของกองทุนเพื่อการศึกษารัฐบาล มีดังต่อไปนี้ 

  • ดอกเบี้ยต่ำ: พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 บัญญัติให้เก็บดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และคิดค่าปรับการผิดนัดชำระหนี้ ที่ไม่เกินร้อยละ 0.5% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำกว่าสินเชื่อโดยทั่วไปอย่างมาก เนื่องจากจุดประสงค์ของกองทุนไม่ได้หวังกำไร แต่เพื่อสร้างโอกาสให้คนเข้าถึงการศึกษาได้มากที่สุด
  • กู้ยืมเงินสะดวก: ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี รวมทั้งสามารถขยายให้กู้ยืมเงินเรียนได้เกินเวลาที่หลักสูตรกำหนด หากมีความจำเป็น
  • ผ่อนชำระได้หลากหลายรูปแบบ: เพื่อให้ผู้กู้สามารถคืนหนี้ได้โดยไม่ลำบากเกินไป จึงกำหนดให้มีระยะเวลาปลอดหนี้ อีกทั้งยังเลือกผ่อนชำระเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปีได้อีกด้วย รวมทั้งช่วยผ่อนผันการชำระหนี้ได้ทุกช่วงเวลา

เงินกู้เพื่อการศึกษาโดยเอกชน

นอกจากกองทุนเพื่อการศึกษาของรัฐบาลแล้ว ในปัจจุบันยังมีเงินกู้เพื่อการศึกษาที่ให้บริการโดยธนาคาร สถาบันการเงิน หรือบริษัทผู้ให้สินเชื่อมาให้บริการอีกด้วย เพื่อทางเลือกด้านการศึกษาที่เปิดกว้างขึ้น เนื่องจากบางหลักสูตรก็ไม่อยู่ในเงื่อนไขของกองทุนเพื่อการศึกษารัฐบาล อย่างไรก็ตาม เงินกู้เพื่อการศึกษาจะไม่ได้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ดังนั้น กฎหมายที่นำมาบังคับใช้จึงเป็นฉบับเดียวกับสินเชื่อประเภทอื่น ๆ โดยประเด็นที่ควรรู้เกี่ยวกับเงินกู้เพื่อการศึกษาโดยเอกชนมีดังต่อไปนี้

  • อัตราดอกเบี้ย: จริงอยู่ที่เงินกู้เพื่อการศึกษาโดยเอกชนใช้กฎหมายเดียวกับสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ที่ระบุอัตราดอกเบี้ยให้ไม่เกิน 15% ต่อปี หรือร้อยละ 1.25% ต่อเดือน ทว่า โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ให้กู้ก็จะคิดดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อการศึกษาในอัตราต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ที่ประมาณ MRR (Minimum Retail Rate) + 3.00% แต่ในการยื่นกู้ ก็ต้องแสดงหลักฐานให้ผู้ให้กู้เชื่อว่าจะนำเงินไปใช้ด้านการศึกษาจริง ๆ 
  • คุณสมบัติผู้สมัครสินเชื่อเพื่อการศึกษา: ในขณะที่กองทุนเพื่อการศึกษารัฐบาล ผู้กู้คือตัวนักเรียนเอง แต่เงินกู้เพื่อการศึกษาโดยเอกชน ผู้ที่ยื่นกู้จะต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็คือผู้ปกครองของนักเรียนนั่นเอง

คนกำลังหยอดเหรียญ 10 บาทลงในกระปุก

เงินกู้เพื่อการศึกษา ถ้าไม่ชำระคืนจะมีความผิดอย่างไร?

สำหรับเงินกู้เพื่อการศึกษาโดยเอกชน ในกรณีที่ไม่ชำระหนี้คืนตามเวลาที่นัดหมาย ก็จะมีความผิดเช่นเดียวกับสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ผู้ให้กู้สามารถฟ้องร้องต่อศาล เพื่อให้ลูกหนี้ชำระหนี้คืนพร้อมดอกเบี้ย และค่าเสียหายได้ ซึ่งถ้าไม่ทำตาม ศาลสามารถออกหมายบังคับคดี ยึดอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ออกขายทอดตลาด เพื่อนำเงินที่ได้มาชำระหนี้

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของกองทุนเพื่อการศึกษารัฐบาล โทษในการผิดนัดชำระหนี้จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะผู้กู้ยืมจะต้องค้างชำระหนี้เกินกว่า 4 ปี 5 งวด (1,460 วันขึ้นไป) กว่าที่จะมีโอกาสโดนฟ้องคดี เนื่องจากทางภาครัฐไม่ได้ต้องการจะดำเนินคดีกับใคร นอกจากนั้น สำหรับใครที่ผ่อนชำระไม่ไหว ก็สามารถยื่นเรื่องเพื่อแก้ไขโครงสร้างสินเชื่อเพื่อให้ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้ได้ตามกำลังความสามารถในการหารายได้ โดยกรอบเวลาสูงสุดกว่า 30 ปีเลยทีเดียว


ศรีสวัสดิ์ให้บริการสินเชื่อเงินสดเพื่อการศึกษา ดอกเบี้ยต่ำ

สำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งเงินกู้การศึกษาโดยบริษัทสินเชื่อเอกชนที่น่าเชื่อถือ บริการสินเชื่อเงินด่วนที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ คือตัวเลือกที่ใช่! เพราะที่นี่มีบริการสินเชื่อหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ สินเชื่อบ้านและที่ดิน ให้วงเงินสูง… ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.75% ต่อเดือน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.04%- 24% ต่อปี พร้อมทำเรื่องอนุมัติได้ง่าย แถมจ่ายดอกเบี้ยต่ำ โดยสามารถปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ กว่า 5,500 สาขาใกล้บ้านคุณ หรือลองโทรศัพท์เข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัครสินเชื่อเงินสดได้ที่เบอร์ 1652 หรือ LINE Official @srisawad

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว 

*เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

Share This