มีรถที่ยังผ่อนไม่หมด แต่อัตราดอกเบี้ยเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่างวดแต่ละเดือนก็สูงจนแทบจะจ่ายไม่ไหวแล้ว มีวิธีแก้ปัญหานี้บ้างไหม? สำหรับใครที่กำลังรู้สึกว่าสินเชื่อรถยนต์ที่กู้มานั้นเริ่มมีค่างวดที่สูงจนจ่ายไม่ไหว เราขอแนะนำให้คุณนำรถมา “รีไฟแนนซ์” ดีกว่า หากคุณอยากรู้ว่ารีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร เหมาะกับใคร มีประโยชน์อย่างไร และจะต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาให้
1. การย้ายไฟแนนซ์คืออะไร
ก่อนจะไปรู้จักกับประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์รถ เรามารู้จักกับความหมายของการรีไฟแนนซ์กันก่อนเลย
การรีไฟแนนซ์ หรือการย้ายไฟแนนซ์ คือ การกู้เงินก้อนใหม่เพื่อนำมาใช้หนี้สินเชื่อเดิมที่มีอยู่ โดยใช้ทรัพย์ชิ้นเดิมเป็นหลักประกัน ซึ่งการทำรีไฟแนนซ์นั้นสามารถทำกับสินเชื่อได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่ออื่น ๆ ขึ้นอยู่กับริการ และเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ
ดังนั้น การรีไฟแนนซ์รถยนต์ จึงหมายถึงการกู้เงิน หรือทำสินเชื่อใหม่เพื่อนำเงินที่กู้มาไปชำระสินเชื่อรถยนต์เดิมที่มีอยู่ จากนั้นก็ทำการผ่อนจ่ายสินเชื่อใหม่ที่รีไฟแนนซ์นี้มาแทน การรีไฟแนนซ์รถถือเป็นหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมมากเพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระค่ารถในแต่ละเดือนได้นั่นเอง
โดยการรีไฟแนนซ์นี้จะทำกับธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิม หรือจะเปลี่ยนผู้ให้บริการสินเชื่อโดยเลือกใช้บริการธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน
2. ประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์
เมื่อรู้แล้วว่าการย้ายไฟแนนซ์รถนั้นคืออะไร เรามารู้จักกับประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์กันเลย โดยที่ข้อดีของการทำรีไฟแนนซ์สินเชื่อรถยนต์นั้นมีอยู่ 3 ประการหลัก ๆ ด้วยกันดังนี้
1. ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อใหม่
การรีไฟแนนซ์จะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถของคุณลงได้ เนื่องจากคุณมีการจ่ายเงินต้น และดอกเบี้ยคืนไปบ้างแล้วบางส่วนสำหรับสินเชื่อเก่า ทำให้เมื่อรีไฟแนนซ์แล้วจะไม่ต้องกู้สินเชื่อในราคาเต็มของรถยนต์ แต่ทำสินเชื่อกู้เพียงยอดที่เหลืออยู่เท่านั้น ทำให้เงินต้น และอัตราดอกเบี้ยจากการรีไฟแนนซ์ต่ำกว่าสินเชื่อเดิมนั่นเอง
2. ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อเดือน
การรีไฟแนนซ์จะช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับภาระค่างวดผ่อนรถยนต์ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้ เพราะเมื่อรีไฟแนนซ์ใหม่ ค่างวดที่ต้องผ่อนในปีต้น ๆ ก็จะน้อยลงจากสินเชื่อเดิมที่มีค่างวดสูงขึ้นตามสัญญา ทำให้คุณชำระค่างวดต่อเดือนน้อยลงได้ และมีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในบ้าน รวมถึงมีเงินเหลือไว้ใช้เพื่อลงทุนธุรกิจ เก็บออม หรือวางแผนเพื่ออนาคตด้วย
3. มีโอกาสกู้เกินนำเงินส่วนต่างมาใช้จ่ายอื่น ๆ ได้
อีกหนึ่งประโยชน์จากการรีไฟแนนซ์ก็คือ สินเชื่อที่ได้จากการรีไฟแนนซ์นั้น อาจมีเงินส่วนต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น การซ่อมบำรุงรถ หรือจะนำมาโปะจ่ายสินเชื่อเดิมก็ได้เช่นกัน
3. ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์
แม้ว่าการย้ายไฟแนนซ์รถจะมีประโยชน์ แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะการรีไฟแนนซ์และกู้สินเชื่อก้อนใหม่ ก็เหมือนกับการสร้างหนี้ก้อนใหม่ ทำให้คุณอาจต้องเป็นหนี้นานขึ้น และมีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถที่ยาวนานขึ้นกว่าเดิม
4. อยากเปลี่ยนไฟแนนซ์รถต้องทำยังไง
หากคุณอยากเปลี่ยนไฟแนนซ์รถยนต์ สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้ได้เลย
- คำนวณเปรียบเทียบว่าการรีไฟแนนซ์รถนั้นคุ้มค่าหรือไม่ โดยคำนวณจากดอกเบี้ยที่คงเหลืออยู่จากสินเชื่อเดิม และสินเชื่อใหม่จากการรีไฟแนนซ์
- เตรียมเอกสารให้พร้อม ทั้งข้อมูลส่วนตัวอย่างสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รวมถึงเอกสารแสดงรายได้ต่าง ๆ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน และเล่มธนาคาร
- ติดต่อทางธนาคาร หรือสถาบันการเงินของสินเชื่อเดิม เพื่อสอบถามยอดคงเหลือทั้งหมด
- เข้าปรึกษากับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ต้องการใช้บริการรีไฟแนนซ์ ยื่นเอกสาร และรอการอนุมัติ
- หลังจากอนุมัติการรีไฟแนนซ์แล้ว คุณสามารถนำเงินไปชำระและปิดสินเชื่อเก่าได้เลย หลังจากนั้นอาจต้องดำเนินการส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ทางสถาบันการเงินที่รีไฟแนนซ์ใหม่ เช่น สำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น
หากคุณกำลังสนใจอยากรีไฟแนนซ์รถ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือน และลดอัตราดอกเบี้ย เลือกใช้บริการรีไฟแนนซ์รถยนต์จากศรีสวัสดิ์ ผู้ให้บริการจัดหาสินเชื่อที่มีสาขาอยู่มากมายทั่วไทยกว่า 5,500 สาขาได้เลย สินเชื่อรถยนต์จากศรีสวัสดิ์ ให้วงเงินสูง อนุมัติไว และไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนรถยนต์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1652 หรือ LINE Official @srisawad