หลังจากที่คบหาดูใจกันมานาน จนความรักสุกงอมได้ที่ ก็ถึงเวลาที่คู่รักจะก้าวไปสู่อีกหนึ่งขั้นของชีวิต นั่นก็คือ ‘การแต่งงาน’ แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ อาจทำให้คู่รักหลาย ๆ คู่เจอกับปัญหาทางด้านการเงิน ทั้งเงินเดือนที่แทบจะไม่พอใช้ ไหนจะภาระค่าใช้จ่ายอีกมากมาย แล้วเมื่อไหร่ถึงจะได้จัดงานแต่งงานอย่างที่ฝัน?
บทความนี้เรามาแนะนำเคล็ดลับในการเก็บเงินแต่งงานให้ถึงเป้าหมาย พร้อมแนะวิธีกู้เงินแต่งงานแบบไม่ให้หนี้บานปลาย เพื่อให้คู่รักได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างที่ฝันไว้ ติดตามกันได้เลย
จัดงานแต่งทั้งที จัดแบบไหนถึงจะพอดี?
ถึงแม้ว่างานแต่ง จะเป็นงานที่เปี่ยมไปด้วยความสุข แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การที่จะจัดงานแต่งขึ้นมาได้นั้น จะต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย ไหนจะค่าชุด ค่าสถานที่ ค่าอาหาร และยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับของชำร่วย ของตกแต่งภายใน และช่างภาพ จึงทำให้คู่รักหลาย ๆ คู่เกิดความกังวลว่าควรจะจัดงานแต่งประมาณไหน ถึงจะเรียกว่าพอดี ซึ่งต้องบอกว่าความจริงแล้วการแต่งงานเป็นเพียงพิธีการที่จัดขึ้น เพื่อประกาศว่าคนสองคนตกลงที่จะใช้ชีวิตอยู่รวมกัน ซึ่งงานแต่งนั้นจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของทั้งฝั่งชายและหญิงเป็นหลัก ดังนั้น คู่รักจึงควรปรึกษากับครอบครัวทั้งสองฝ่าย และหาจุดที่ลงตัวกับคู่ของเรามากที่สุด โดยไม่จำเป็นจะต้องจัดให้หรูหราอลังการ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่า คือ “ความสุข” ของคู่รักนั่นเอง
4 สเต็ปเก็บเงินแต่งงานให้ถึงเป้าหมาย ฉบับคนมีงบจำกัด
สำหรับคู่รักที่มีการพูดคุยปรึกษากันแล้วว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องจัดงานแต่งงาน เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสามีภรรยา แต่ในขณะเดียวกันก็อยากกำหนดงบประมาณให้พอเหมาะพอดี เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลายเป็นภาระในภายหลัง เรามี 4 ขั้นตอนในการเก็บเงินแต่งงานให้ถึงเป้าหมายมาแนะนำ
- บริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มี
การจะเก็บเงินแต่งงานให้ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ อันดับแรกคู่รักควรเริ่มจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่แต่ละคนมี โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องสำรวจรายได้ต่อเดือนของตัวเอง และแจกแจงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ออกมาอย่างละเอียด เพื่อดูว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่ไม่จำเป็นและสามารถปรับลดลงได้บ้าง จากนั้นจึงมาคำนวณว่า หลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว แต่ละคนมีเงินเหลือสำหรับเก็บไว้แต่งงานอยู่เท่าไหร่ และหากเก็บจำนวนเท่านี้ จะต้องใช้เวลานานกี่เดือนกว่าจะไปถึงเป้าหมาย เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมองเห็นปลายทางของการเก็บเงินร่วมกัน และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเก็บเงินแต่งงานให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้
หลังจากวางแผนค่าใช้จ่ายแล้ว ขั้นตอนถัดมาก็คือการวางแผนจัดงานล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะว่าที่บ่าวสาวจะต้องพูดคุยกันอย่างจริงจังว่า แต่ละคนอยากจะจัดงานแบบไหน เพื่อให้มองเห็นภาพที่ตรงกัน เช่น ต้องการจัดในสถานที่แบบไหน อยากเชิญแขกจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นจึงช่วยกันหาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดงานแต่ง โดยเหตุผลที่คู่รักจะต้องวางแผนล่วงหน้าอย่างละเอียดก็เพื่อจะได้มีเวลาศึกษาและเปรียบข้อมูลจากหลาย ๆ แห่ง และช่วยให้มองเห็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนแผนเพื่อคุมงบประมาณได้ง่ายยิ่งขึ้น
- เปิดบัญชีใหม่เพื่อเก็บเงินร่วมกัน
เมื่อเราได้เห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการจัดงานแต่ง ก็ถึงเวลาที่จะต้องลงมือเก็บออมอย่างจริงจัง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการเปิดบัญชีร่วม เพื่อช่วยกันเก็บออม โดยควรมีการกำหนดว่า หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว ให้ต่างฝ่ายต่างโอนเงินเข้ามาไว้ในบัญชีนี้ทันที เพื่อป้องกันการเผลอเอาเงินออกไปใช้จ่ายกับเรื่องที่ไม่จำเป็น วิธีนี้จะช่วยให้ว่าที่บ่าวสาวได้มองเห็นยอดเงินที่ค่อย ๆ เติบโต ทำให้มีกำลังใจในการช่วยกันเก็บเงินมากขึ้นไปอีก
- หากมีส่วนที่ยังขาด อาจพิจารณาเรื่องกู้เงินแต่งงาน
หากใครที่มีแพลนอยากจะแต่งให้ได้ภายในเวลาที่จำกัด เช่น ภายใน 1-2 ปี เนื่องมาจากความต้องการของครอบครัว หรือภาระหน้าที่ที่จำเป็นต่าง ๆ แต่เมื่อลองคำนวณดูแล้วกลับพบว่า เงินเก็บที่มีน่าจะยังไปไม่ถึง อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ว่าที่บ่าวสาวสามารถจัดงานแต่งในฝันได้ภายในระยะเวลาที่ต้องการ ก็คือการ “กู้เงินแต่งงาน” โดยเป็นการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินหรือบริษัทสินเชื่อ เพื่อนำเงินก้อนมาใช้จ่าย จากนั้นจึงวางแผนชำระหนี้เพื่อปิดยอดในเวลาที่กำหนด ซึ่งแนะนำว่าการกู้เงินแต่งงานนั้น เราควรกู้เฉพาะเท่าที่จำเป็น เพื่อนำมาใช้ในส่วนที่ยังขาดเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้ว แทนที่จะได้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข อาจต้องมานั่งทุกข์ไปกับการใช้หนี้ที่ไม่รู้จบ
กู้เงินแต่งงานแล้ว บริหารอย่างไรไม่ให้หนี้บานปลาย
เมื่อท้ายที่สุดแล้ว การกู้เงินแต่งงาน คือคำตอบที่จะช่วยให้การจัดงานแต่งเป็นจริงได้ คู่รักจะมีวิธีบริหารจัดการเงินที่กู้มาอย่างไร เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระหนี้ที่บานปลาย เราสรุปไว้ให้แล้ว
หลายคนอาจมองว่า การเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการกู้เงินแต่งงาน อาจกลายเป็นการสร้างภาระตั้งแต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว แต่สำหรับบางคน การกู้เงินอาจเป็นทางออกเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ซึ่งเมื่อเราเลือกที่จะกู้แล้ว สิ่งที่จะต้องคำนึงไว้เสมอก็คือการกู้เท่าที่จำเป็น แค่พอให้มีเงินก้อนมาโปะค่าใช้จ่ายที่ยังขาดไปเท่านั้น เพื่อให้เราสามารถรับผิดชอบเงินที่กู้มาได้ไหว ไม่ให้กลายเป็นปัญหาใหญ่ในภายหลัง
- จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้ละเอียด
หลังจากที่ได้เงินก้อนมาแล้ว ให้ว่าที่บ่าวสาวทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย สำหรับบันทึกค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งให้ละเอียดที่สุด และหากเป็นไปได้ พยายามให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนถือและจัดการเงินเพียงคนเดียว เพื่อลดความยุ่งยากในการจดบันทึก และป้องกันการตกหล่น โดยเราจะต้องจดให้ละเอียดทุกข้อ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ยิบย่อยแค่ไหน เพื่อให้เรามองเห็นยอดเงินทั้งหมดที่ใช้ไปกับการจัดงานแต่ง และจะได้นำเงินที่เหลือจากการจัดงานไปปิดยอดหนี้ให้ได้โดยเร็ว
นอกจากจะกู้เงินแต่งงานเท่าที่จำเป็นแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดภาระทางการเงินให้ว่าที่บ่าวสาว ก็คือพยายามจัดการให้มีหนี้ก้อนเดียว โดยไม่ควรไปกู้เงินเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่ง เพียงเพราะกลัวว่าเงินจะไม่พอ งานจะไม่ใหญ่ เพราะเราต้องไม่ลืมว่าหลังงานจบไปแล้ว คนที่จะต้องแบกรับภาระต่าง ๆ ก็คือตัวเราเอง ดังนั้น อยากให้เชื่อว่าถึงจะมีงบจำกัด แต่ถ้ามีการบริหารจัดการเงินที่ดี ร่วมกับหาข้อมูลต่าง ๆ ให้ละเอียด และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นกับงานออกไป คู่รักจะสามารถจัดงานแต่งที่สวยและอบอุ่นเหมือนที่ฝันไว้ได้อย่างแน่นอน
ศรีสวัสดิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คู่รักได้จัดงานแต่งงานอย่างที่ฝันไว้ ด้วยบริการกู้เงินด่วนทันใจ เตรียมเอกสารง่ายไม่ยุ่งยาก สมัครได้ผ่านเว็บไซต์ หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้เลยที่ศรีสวัสดิ์กว่า 5,500 สาขาทั่วไทยหรือโทร 1652 หรือ LINE Official @srisawad
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
*เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลอ้างอิง:
แชร์เทคนิคเก็บเงินแต่งงาน ให้ได้ตามเป้าหมาย แบบไม่มีกั๊ก. สืบค้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 จาก