SAWAD กำไรไตรมาส 3/65 โตต่อเนื่อง 1,251.14 ล้านบาท กวาดรายได้รวมถึง 3.2 พันล้าน รับอานิสงส์พอร์ตสินเชื่อโตเด่นทะลุ 5 หมื่นล้าน คุณภาพลูกหนี้ดีขึ้น ด้านผู้บริหาร ธิดา แก้วบุตตา พอใจการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่งของเครือศรีสวัสดิ์ เร่งขยายสาขารองรับธุรกิจใหม่ในอนาคตตามแผนงาน ล่าสุดเปิดสาขาพร้อมให้บริการกว่า 5,187 สาขา
ธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2565 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 1,251.14 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.43% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ์อยู่ที่ 1,198.09 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยราว 2,307.07 ล้านบาท และรายได้อื่นราว 970.84 ล้านบาท รวมรายได้อยู่ที่ 3,277.93 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 32.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้การเติบโตของรายได้และกำไรมาจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯอยู่ที่ 51,477 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 36,986 ล้านบาท สะท้อนการเติบโตดีในช่วงครึ่งปีหลังที่ปล่อยสินเชื่อเป็นไปตามเป้าหมาย อีกทั้งได้อานิสงส์จากคุณภาพลูกหนี้ของบริษัทที่ดีขึ้น NPL Ratio ลดลง ส่งผลให้การตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตลดลงตามไปด้วย
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน มีรายได้ดอกเบี้ย 5,949.89 ล้านบาท และรายได้อื่นอยู่ที่ 2,594.28 รวมรายได้อยู่ที่ 8,544.13 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10.57% โดยรายได้ที่เติบโตดีมาจากการขยายตัวของรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,507.42 ล้านบาท อยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้จะเติบโตตามแผน New S Curve ของเครือศรีสวัสดิ์ได้ เห็นได้ชัดจากพอร์ตสินเชื่อที่กลับมาเติบโตเด่นทะลุ 5 หมื่นล้านบาทแล้ว ซึ่งเป็นแนวโน้มการเติบโตหลังผ่านสถานการณ์การระบาดของโควิด และสภาวะเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวชัดเจน เชื่อว่าโค้งสุดท้ายของปีนี้จะเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในการสร้างรายได้และกำไรที่ดี” ธิดา กล่าว
ทั้งนี้ตามแผนงานบริษัทได้เร่งส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และออกแคมเปญสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เครือศรีสวัสดิ์เป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกทั้งยังเร่งการขยายสาขาเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการในทุกพื้นที่ โดยวางเป้าขยายสาขาทั้งหมด 5,500 สาขา ปัจจุบันขยายสาขาพร้อมให้บริการแล้ว 5,187 สาขา เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีสาขาอยู่ที่ 4,874 สาขา