ส่องความต่าง แชร์ลูกโซ่ VS ขายตรง รู้ไว้ ไม่โดนหลอก!

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินข่าวคราวของ ‘แชร์ลูกโซ่’ กลโกงการเงินที่ทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อและต้องสูญเสียเงินจำนวนมากกันมานักต่อนัก ซึ่งส่วนใหญ่มักชักนำให้เหยื่อหลงเชื่อด้วยการชักชวนไปลงทุน รวมทั้งเอาผลตอบแทนก้อนใหญ่มาหลอกล่อ แต่แชร์ลูกโซ่คืออะไร แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการที่คนรอบตัวชวนไปลงทุนนั้น เป็นการลงทุนในแชร์ลูกโซ่หรือธุรกิจที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างธุรกิจขายตรงกันแน่ บทความนี้มีข้อสรุปมาบอกกัน

ตอบชัด แชร์ลูกโซ่คืออะไร?

แชร์ลูกโซ่ หรือ Pyramid Scheme คือ วิธีการหลอกลวงประเภทหนึ่งของมิจฉาชีพ ที่อาศัยการโฆษณาชวนเชื่อให้เหยื่อหลงกล โดยให้ผู้ที่มีชื่อเสียงหรือผู้ที่มีความน่าเชื่อถือชักชวนคนให้นำเงินมาสมัครสมาชิกและลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูง และเป็นการชักชวนต่อกันเป็นทอด ๆ เพื่อกินค่าหัวคิว โดยอ้างว่าเงินที่ได้นั้น มาจากการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น หุ้น ทองคำ หรือ Forex แรก ๆ มักจ่ายผลตอบแทนเยอะและตรงเวลา แต่เมื่อได้เงินก้อนใหญ่จากการสมัครสมาชิกและการลงทุนแล้ว มิจฉาชีพก็จะหยุดจ่ายเงินและหอบเงินก้อนนั้นหนีไป กลายเป็นคดีความที่เราเห็นกันตามสื่อต่าง ๆ มากมาย

สำหรับใครที่มีคนรู้จักมาชักชวนให้นำเงินไปลงทุน แล้วไม่แน่ใจว่ากำลังจะถูกหลอกให้เข้าสู่วังวนแชร์ลูกโซ่หรือไม่ นี่คือจุดสังเกตง่าย ๆ ที่คุณควรเช็กให้แน่ใจ เพิ่มความมั่นใจว่าจะไม่ตกเป็นเหยื่อของโจรตัวร้ายนั่นเอง

• เน้นการสร้างเครือข่าย การชักชวนคนมาลงทุนมากกว่าการขายของ ได้รับผลตอบแทนหรือโบนัสจากการชวนคนมาเป็นสมาชิกโดยที่ธุรกิจไม่สามารถจับต้องได้ ไม่มีสินค้าและแผนธุรกิจที่แน่นอน 
• มีการการันตีผลตอบแทนและให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น รวมทั้งบอกผลตอบแทนเป็นตัวเลขที่แน่นอน ซึ่งธุรกิจทั่วไปไม่สามารถคาดเดาผลประกอบการล่วงหน้าได้
• กระตุ้นให้ตัดสินใจด้วยเทคนิคต่าง ๆ เช่น เปิดรับสมัครนักลงทุนเป็นวันสุดท้าย ใคร ๆ ก็ลงทุน หรือมีผู้มีชื่อเสียงร่วมลงทุนด้วย

เปิดความหมายที่แท้จริงของธุรกิจขายตรง

ธุรกิจขายตรง (Direct Sales) คือ การทำการตลาดและขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งใคร ๆ ก็สามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ และมีการชักชวนให้คนรอบข้างสมัครสมาชิกด้วย ส่วนจุดที่ทำให้ธุรกิจขายตรงแตกต่างจากแชร์ลูกโซ่ ก็คือการมีแผนธุรกิจที่แน่นอน มีหลักการจ่ายผลตอบแทนที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น หากทำยอดขายได้สูง ก็จะได้รับผลตอบแทนสูง เป็นต้น ส่วนผลิตภัณฑ์ก็ต้องมีคุณภาพและสามารถจับต้องได้เช่นกัน โดยธุรกิจขายตรงแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ธุรกิจขายตรงแบบชั้นเดียวและแบบหลายชั้น โดยแต่ละประเภทมีรายละเอียด ดังนี้

ธุรกิจขายตรงแบบชั้นเดียว (Single Level Marketing: SLM)

ตัวแทนจำหน่ายสามารถเข้าไปขายสินค้าให้ลูกค้าโดยตรงได้เลย โดยตัวแทนจะได้รับส่วนลดและสิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น ส่วนแบ่งกำไรตามยอดขาย โบนัส ทริปท่องเที่ยว เป็นต้น

ธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น (Multi-Level Marketing: MLM)

เป็นโมเดลที่เน้นการขายสินค้าและสร้างเครือข่ายไปพร้อม ๆ กัน มีการชักชวนคนเข้ามาสมัครสมาชิก แต่ก็ยังคงขายสินค้าควบคู่ไปด้วย จึงทำให้มีความคล้ายคลึงกับแชร์ลูกโซ่ จนทำให้หลายคนเกิดความสับสนได้

สรุปความแตกต่างระหว่างแชร์ลูกโซ่และธุรกิจขายตรง

รู้แล้วว่าแชร์ลูกโซ่และธุรกิจขายตรงคืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจึงสรุปความแตกต่างระหว่างแชร์ลูกโซ่และธุรกิจขายตรงให้เห็นชัด ๆ กันทั้งหมด 3 ประเด็นด้วยกัน ดังนี้

การจดทะเบียนประกอบธุรกิจ

ธุรกิจขายตรงจะมีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง คุณสามารถนำชื่อบริษัทไปค้นหาในฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ที่นี่ ส่วนแชร์ลูกโซ่มักจะไม่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง อาศัยความน่าเชื่อถือและหลอกล่อเหยื่อด้วยผลประโยชน์เท่านั้น

แผนธุรกิจและการจ่ายผลตอบแทน

แชร์ลูกโซ่ส่วนใหญ่ ดึงดูดใจเหยื่อด้วยการจ่ายผลตอบแทนที่เยอะและเร็ว แต่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเงินเหล่านั้นมาจากไหน ในขณะที่ธุรกิจขายตรงมีแผนธุรกิจอย่างชัดเจน สามารถตอบได้ว่าหากคุณมียอดขายเท่านี้ จะได้รับผลตอบแทนเท่าไหร่ และจะไม่มีการการันตีว่าจะได้เงินจำนวนมากแบบ 100% ด้วย

คุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้า

ความแตกต่างข้อสุดท้าย คือธุรกิจขายตรงจะเน้นการนำเสนอสินค้าเป็นหลัก หากเป็นสินค้ากลุ่มอาหารเสริม ก็มีการจดทะเบียน อย. ถูกต้อง แต่แชร์ลูกโซ่จะค่อนข้างหลักลอย กล่าวถึงแต่เรื่องผลประโยชน์หรือหากมีสินค้าบังหน้า ก็มักจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซื้อไปแล้วไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้

แชร์ลูกโซ่ผิดกฎหมายหรือไม่?

จากข้อมูลทั้งหมดที่เรากล่าวถึงกันในบทความนี้ จึงสามารถสรุปได้ว่าแชร์ลูกโซ่คือสิ่งผิดกฎหมาย มีบทลงโทษทั้งปรับและจำคุก หากเป็นผู้ร่วมลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าเงินที่จ่ายไป ในทางกฎหมายจะถือเป็นผู้เสียหาย ส่วนบทลงโทษของแชร์ลูกโซ่ คือหากชักชวนคนมาลงทุน แล้วไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับ 50,000-1,000,000 บาท และมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สังเกตให้ดีก่อนหลวมตัวตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ของมิจฉาชีพ และหากมีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน อย่ามัวคิดว่าจะกู้เงินนอกระบบที่ไหนดีจนถูกหลอกแบบไม่รู้ตัว หันมาใช้สินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ปลอดภัย ได้เงินก้อนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ พร้อมให้บริการทั้งทางออนไลน์และที่หน้าสาขา สมัครได้ผ่านเว็บไซต์ หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้เลยที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ กว่า 5,500 สาขาทั่วไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1652 หรือ LINE Official @srisawad

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว 

*เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด