มีที่ดินในมือแต่ต้องการเงินก้อนไปใช้จ่ายฉุกเฉินหรือต่อยอดธุรกิจ แต่ก็ยังเสียดายไม่อยากขายขาดใช่ไหม? ขายฝากที่ดินอาจเป็นทางออกที่ตอบโจทย์คุณที่สุด แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจดีว่า การขายฝากที่ดินคืออะไรกันแน่ วันนี้ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ จะมาเจาะลึกทุกแง่มุม ตั้งแต่ข้อดี-ข้อควรระวัง ไปจนถึงขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้แบบครบจบในที่เดียว
ขายฝากที่ดิน คืออะไร
ขายฝากที่ดิน คือ สัญญาซื้อขายรูปแบบหนึ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยผู้ขาย (ผู้ขายฝาก) จะโอนกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินของตนให้กับผู้ซื้อ (ผู้รับซื้อฝาก) เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงิน โดยมีเงื่อนไขพิเศษที่สำคัญคือ ผู้ขายฝากมีสิทธิ์ซื้อที่ดินคืน หรือ “ไถ่ถอน” ได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ในสัญญา ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนต้องการเงินด่วนแต่ยังอยากเก็บที่ดินผืนสำคัญเอาไว้
แม้ขายฝากจะเป็นวิธีได้เงินเร็ว แต่ข้อควรระวังคือคุณต้องโอนกรรมสิทธิ์ทันที หากไม่สามารถไถ่ถอนได้ตามกำหนด ที่ดินก็จะไม่ใช่ของคุณอีกต่อไป ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าคือการขอ สินเชื่อบ้านและที่ดิน ที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ เป็นสินเชื่อบ้านแลกเงินซึ่งกรรมสิทธิ์ยังเป็นชื่อคุณเหมือนเดิม ใช้เอกสารไม่ยุ่งยาก แถมยังอนุมัติไว วงเงินสูง ตอบโจทย์ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเสียที่ดินถาวร หากยังสงสัยว่าการขายฝากที่ดินคืออะไร บทความนี้จะพามาทำความรู้จักรายละเอียดสินเชื่อบ้านและที่ดินจากศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ กันต่อด้านล่างเลย
การขายฝากที่ดินมีข้อดี-ข้อควรระวัง อะไรบ้าง
เหมือนกับการทำธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ ขายฝากที่ดินก็มีทั้งข้อดีและข้อควรระวังที่ต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
ข้อดีของการขายฝากที่ดิน
- อนุมัติรวดเร็ว ได้เงินก้อนทันใจ : เป็นวิธีที่ช่วยให้เข้าถึงเงินทุนได้ไวกว่าการขอสินเชื่อบางประเภท เพราะใช้มูลค่าของที่ดินเป็นหลักในการพิจารณา
- ให้วงเงินสูง : โดยทั่วไปมักจะได้วงเงินสูงตามราคาประเมินของที่ดิน ซึ่งอาจสูงกว่าการจำนอง
- ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน : ตัวที่ดินทำหน้าที่เป็นหลักประกันอยู่แล้ว ทำให้ขั้นตอนไม่ซับซ้อน
- มีสิทธิ์ซื้อคืนได้ : จุดเด่นที่สุดคือคุณไม่เสียที่ดินไปอย่างถาวร หากสามารถไถ่ถอนได้ตามกำหนดเวลาใน ขายฝากที่ดินกับสัญญาขายฝาก
- โปร่งใสและถูกกฎหมาย : การทำสัญญาต้องดำเนินการต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินเท่านั้น จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย
ข้อควรระวังในการขายฝากที่ดิน
- กรรมสิทธิ์ถูกโอนทันที : ทันทีที่เซ็นสัญญา กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะถูกโอนไปเป็นของผู้รับซื้อฝากชั่วคราว
- ความเสี่ยงในการไถ่ถอน : หากไม่สามารถหาเงินมาไถ่ถอนคืนได้ทันตามกำหนดเวลาในสัญญา จะทำให้สูญเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นไปอย่างถาวร
- มีค่าธรรมเนียมที่กรมที่ดิน : การทำธุรกรรมที่กรมที่ดินมีค่าธรรมเนียมการโอนและภาษีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า
การขายฝากที่ดินทําอย่างไร เปิด 4 ขั้นตอนสำคัญ ณ กรมที่ดิน
คนที่สงสัยว่าการขายฝากที่ดินทําอย่างไรนั้น จริง ๆ แล้วมีขั้นตอนที่ชัดเจนและไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด มีเพียง 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1. การหาผู้รับซื้อฝากและตกลงราคา
ขั้นตอนแรกคือการหาผู้รับซื้อฝากที่น่าเชื่อถือ และเจรจาตกลงเงื่อนไขสำคัญร่วมกัน ทั้งราคาขายฝาก อัตราดอกเบี้ย (ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี) และระยะเวลาในการไถ่ถอนคืน (สูงสุดไม่เกิน 10 ปี)
2. การเตรียมเอกสารสำคัญที่ต้องใช้
เมื่อตกลงเงื่อนไขกันได้แล้ว ทั้งสองฝ่ายจะต้องเตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารเกี่ยวกับที่ดินให้พร้อม โดยเอกสารที่สำคัญที่สุดฝั่งผู้ขายฝากคือ “โฉนดที่ดินฉบับจริง” ที่ปลอดภาระหนี้สิน เพื่อนำไปใช้ในวันทำสัญญา
3. การทำสัญญาขายฝากต่อหน้าเจ้าหน้าที่
ในวันนัดหมาย ทั้งผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝากจะต้องไปทำสัญญาพร้อมกันที่สำนักงานที่ดินในเขตที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้จัดทำการขายฝากที่ดินกับสัญญาขายฝาก และตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
4. การชำระเงินและกำหนดวันไถ่ถอนคืน
หลังจากเซ็นสัญญาเรียบร้อย ผู้ขายฝากจะได้รับเงินตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ และบนโฉนดที่ดินจะมีการจดทะเบียนระบุกรรมสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝาก พร้อมทั้งกำหนดวันสิ้นสุดสัญญาไถ่ถอนไว้อย่างชัดเจน เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการขายฝากที่ดิน
เพื่อให้การทำธุรกรรมขายฝากที่ดินเป็นไปอย่างราบรื่น การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเอกสารหลัก ๆ ที่ต้องใช้ มีดังนี้
- โฉนดที่ดินฉบับจริง (ปลอดภาระ)
- บัตรประชาชนตัวจริง ของผู้ขายฝาก (และคู่สมรส ถ้ามี)
- ทะเบียนบ้านตัวจริง ของผู้ขายฝาก (และคู่สมรส ถ้ามี)
- หนังสือให้ความยินยอมของคู่สมรส (กรณีที่จดทะเบียนสมรส)
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
ขายฝากที่ดินต่างจากจำนองอย่างไร
หลายคนมักสับสนระหว่างขายฝากที่ดินและการจำนอง ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดเพียงข้อเดียวคือเรื่อง “กรรมสิทธิ์” ในการขายฝาก กรรมสิทธิ์จะถูกโอนไปยังผู้รับซื้อฝากทันที แต่ในการจำนอง กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของเจ้าของเดิม โดยใช้โฉนดเป็นเพียงหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้เท่านั้น
สินเชื่อบ้านและที่ดินจากศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ทางเลือกที่อุ่นใจกว่า
แม้ว่าขายฝากที่ดินจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่บางคนอาจรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ไปให้ผู้อื่น ที่ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ เรามีอีกหนึ่งทางเลือกที่อุ่นใจกว่า คือ “สินเชื่อบ้านและที่ดิน” ที่ใช้หลักการจำนอง โดยมีข้อดี ๆ มากมาย ได้แก่
- กรรมสิทธิ์ยังเป็นของคุณ 100% อุ่นใจได้ว่าที่ดินยังเป็นของเราแน่นอน
- ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน ใช้เพียงโฉนดเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน อยู่ที่ไหนก็ขอสินเชื่อได้
- วงเงินสูงสุดตามราคาประเมิน อนุมัติไว ช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้ทันเวลา
- ผ่อนได้นานสูงสุด 120 งวด (10 ปี) ช่วยให้วางแผนการเงินได้สะดวกขึ้น
- ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้น 0.66% ต่อเดือน
- เลือกรูปแบบการผ่อนได้ ทั้งแบบลดต้นลดดอก หรือจะเลือกผ่อนแบบบอลลูนคือจ่ายแต่ดอกเบี้ย แล้วปิดต้นงวดสุดท้ายก็ยังได้
- ประเมินวงเงินออนไลน์ได้ก่อน รู้ความเป็นไปได้เบื้องต้นผ่านแอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์”
- รับคู่สัญญาทันที เมื่อทำสัญญาเรียบร้อยที่สาขา เพิ่มความโปร่งใสให้คุณสบายใจ
ไม่ว่าคุณจะกำลังพิจารณาขายฝากที่ดิน หรือมองหาทางเลือกอื่นในการเปลี่ยนโฉนดเป็นเงินทุน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกผู้ให้บริการที่โปร่งใสและไว้ใจได้ ที่ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ เรามีบริการ “สินเชื่อบ้านและที่ดิน” ที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนโฉนดเป็นเงินก้อน โดยที่กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นชื่อคุณเหมือนเดิม มั่นใจได้กับประสบการณ์กว่า 40 ปี ภายใต้หลักการทำงาน “มั่นใจ โปร่งใส และถูกกฎหมาย” ที่พร้อมยืนเคียงข้างและเติบโตไปพร้อมกับคนไทยทุกคน
สามารถประเมินวงเงินออนไลน์ได้ฟรี หรือติดต่อได้ที่ ศ. ศาลาสีส้มทุกสาขาใกล้บ้านคุณ แอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์” พร้อมให้บริการบนทั้งระบบ iOS และ Android หรือ www.sawad.co.th , LINE Official: @srisawad และ โทร. 1652 เพื่อรับคำปรึกษาฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย
หมายเหตุ :
- สินเชื่อบ้านที่ดิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 14.61% – 15.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 120 งวด
- ระยะเวลาการได้รับโฉนดคืนภายใน 15 วันทำการหลังชำระยอดปิดบัญชี
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด