งานแต่งงาน เป็นงานสำคัญในชีวิตคู่ของใครหลายคน แต่การเตรียมงานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก บางครั้งก็อาจทำให้งบบานปลายได้ ดังนั้น คู่บ่าวสาวจึงควรวางแผนและจัดการงบประมาณอย่างรอบคอบ เพื่อให้งานแต่งงานออกมาสมบูรณ์แบบและเป็นไปตามงบประมาณที่ตั้งไว้ สำหรับบ่าวสาวที่กำลังมีข่าวดี อยากจัดงานแต่งให้ตรงใจ เข้ามารู้จักวิธีคุมงบงานแต่งไม่ให้บานปลายได้ในบทความนี้
วิธีคุมงบงานแต่งไม่ให้บานปลาย
1. กำหนดงบงานแต่งงานให้ชัดเจน
ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด คือการกำหนดงบประมาณให้ชัดเจน โดยควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น จำนวนแขก สถานที่จัดงาน อาหาร เครื่องดื่ม การตกแต่ง เสื้อผ้าหน้าผม เป็นต้น จากนั้นจึงทำการประมาณการค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วน เพื่อให้ได้ตัวเลขงบประมาณที่ชัดเจน รวมถึงอาจกำหนดงบประมาณไว้เผื่อเหลือเผื่อขาดประมาณ 10-20% สำหรับเหตุฉุกเฉิน
ตัวอย่างการแบ่งสัดส่วนงบประมาณงานแต่งงาน
- สถานที่จัดงาน: 20%
- อาหารและเครื่องดื่ม: 30%
- ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว: 10%
- ของตกแต่ง: 5%
- ช่างภาพและวิดีโอ: 10%
- ของชำร่วย: 5%
- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ: 20%
2. เลือกแพ็กเกจงานแต่งที่ตอบโจทย์
สำหรับคู่รักที่ไม่อยากยุ่งยากเรื่องการจัดงาน และมีความต้องการอยากคุมงบแต่งงาน ในปัจจุบันมีแพ็กเกจงานแต่งของบริการต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย โดยแพ็กเกจเหล่านี้จะรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน ทำให้สะดวกและประหยัดเวลาในการบริหารงานแต่ละส่วน ที่สำคัญควรเปรียบเทียบราคาและรายละเอียดของแพ็กเกจต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจเลือก
ตัวอย่างแพ็คเกจงานแต่งงาน A : 120,000 บาท
- ห้องนอนโรงแรมสำหรับบ่าวสาว 1 คืน
- ห้องเปลี่ยนชุด สำหรับเพื่อนสนิทและครอบครัว
- เครื่องดื่มไม่จำกัด
- โลโก้ชื่อบ่าวสาว
- สแตนด์ดอกไม้บนเวที
- ช่อดอกไม้ติดเสื้อ
- ช่อดอกไม้เจ้าสาว
- เค้กแต่งงาน
- จอโปรเจคเตอร์ LCD สำหรับ Wedding Presentation
- เพลงประกอบงาน
3. จำกัดจำนวนแขกให้เหมาะสม
จำนวนแขกเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่องบงานแต่งงานโดยตรง ดังนั้น การพิจารณาจำนวนแขกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยอาจเลือกเชิญเฉพาะแขกคนสนิท เช่น ครอบครัว เพื่อนสนิท และญาติผู้ใหญ่ เพื่อควบคุมจำนวนแขกให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม จะช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณบานปลาย
เคล็ดลับ
- เขียนรายชื่อแขกของคุณทั้งหมด และจัดลำดับความสำคัญ
- ปรึกษากับคู่ของคุณเกี่ยวกับจำนวนแขกที่รองรับได้
- ใช้เครื่องมือวางแผนงานแต่งงานออนไลน์ เพื่อติดตามรายชื่อแขกของคุณ
- ส่งการ์ดเชิญที่ระบุจำนวนแขกที่คุณเชิญ
4. เลือกสถานที่จัดงานขนาดไม่ใหญ่มาก
สถานที่จัดงานเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายหลักในงานแต่งงาน จึงควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสมกับงบประมาณและจำนวนแขก หากต้องการประหยัดงบแต่งงาน อาจเลือกสถานที่จัดงานที่ไม่แพง เช่น ร้านอาหาร หอประชุม หรือพื้นที่ส่วนตัว เลือกสถานที่จัดงานที่มีแพ็กเกจรวม อาหาร เครื่องดื่ม และบริการต่าง ๆ เลือกสถานที่จัดงานที่มีโปรโมชันหรือส่วนลด หรือเลือกจัดงานแต่งงานขนาดเล็ก เน้นความสวยงามและอบอุ่น ในสไตล์มินิมอล
5. เลือกชุดแต่งงานและของชำร่วยแบบเรียบง่าย
ชุดแต่งงาน อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของงาน ซึ่งสามารถเลือกได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อชุดมือสอง ซึ่งเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ได้ชุดสวยไม่แพ้ชุดใหม่ หรือการเช่าชุดเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชุดสวยหลากหลายสไตล์โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเก็บรักษา หรือเลือกชุดแบบเรียบง่าย เน้นความสวยงามแบบมินิมอล ดูดี สบายตัว เหมาะกับงานแต่งแบบเรียบง่าย
สำหรับในส่วนของชำร่วย เปรียบเสมือนของที่ระลึกแทนคำขอบคุณสำหรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน โดยไม่จำเป็นต้องมีราคาสูง โดยยังมีทางเลือกที่ช่วยประหยัดและสร้างความประทับใจได้ เช่น การทำของชำร่วยเอง เลือกซื้อของชำร่วยแบบเรียบง่าย ราคาประหยัด หรือเลือกของชำร่วยที่มีประโยชน์ แขกสามารถนำไปใช้งานต่อได้ เช่น ต้นไม้ ของใช้ในบ้าน
6. ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนฝูง
การขอความช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนฝูง เป็นวิธีที่ดีในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและการเตรียมงานส่วนต่าง ๆ ช่วยให้บ่าวสาวสามารถจัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบและประหยัดงบประมาณได้
- การช่วยเตรียมอาหารบางส่วน
- การช่วยจัดงานเลี้ยงแบบง่าย ๆ
- การเตรียมสถานที่/ช่วยตกแต่งสถานที่
- งานพิธีกร กิจกรรมหรือการแสดง เช่น ร้องเพลง เล่นดนตรี
- การถ่ายรูปภายในงาน
- การแต่งหน้า ทำผม
7. วางแผนการเตรียมงานแต่งงานล่วงหน้า
การวางแผนงานล่วงหน้า จะช่วยให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจเริ่มวางแผนตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปีก่อนวันแต่งงาน ช่วยให้มีเวลาหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา เลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด และตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ตัวอย่างการวางแผนเตรียมงานแต่งงานล่วงหน้า
- 12 เดือนก่อนวันแต่งงาน: หารือกับคู่รักและครอบครัวเกี่ยวกับรูปแบบงานแต่งงาน งบประมาณ และจำนวนแขก
- 6 เดือนก่อนวันแต่งงาน: สั่งทำหรือซื้อชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาว / จองช่างแต่งหน้า-ทำผม
- 3 เดือนก่อนวันแต่งงาน: ยืนยันจำนวนแขกกับสถานที่จัดงาน และชำระเงินมัดจำสำหรับริการต่าง ๆ
- 1 เดือนก่อนวันแต่งงาน: ยืนยันรายละเอียดทั้งหมดกับสถานที่จัดงานและผู้ให้บริการต่าง ๆ
- 1 สัปดาห์ก่อนวันแต่งงาน: ตรวจสอบสภาพอากาศ และเตรียมแผนสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉิน
- 1 วันก่อนวันแต่งงาน: ผ่อนคลายและสนุกกับงาน
งานแต่งงานเป็นดั่งความฝันอันแสนหวานของใครหลายคน แต่อาจมีความคาดหวังและแรงกดดัน จนอาจเผลอลืมไปว่า สิ่งสำคัญที่สุดของงานแต่งงาน คือ เรื่องของความสุข ทั้งจากตัวคุณเองและคู่ชีวิต ดังนั้น การเลือกจัดงานแต่งแบบประหยัดก็อบอุ่นและสมบูรณ์แบบได้ในตัวเอง
สำหรับใครที่ยังมีความกังวลเรื่องงบการจัดงานแต่งงาน หรือต้องเงินสำรองเผื่อเหลือ เผื่อขาด ศรีสวัสดิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คู่รักได้จัดงานแต่งงานอย่างที่ฝันไว้ ด้วยบริการสมัครสินเชื่อเงินด่วนทันใจ โดยไม่ต้องเตรียมเอกสารยุ่งยาก สมัครได้ผ่านเว็บไซต์ หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้เลยที่ศรีสวัสดิ์กว่า 5,500 สาขาทั่วไทยหรือโทร 1652 หรือ LINE Official @srisawad
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
*เงื่อนไขอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลอ้างอิง: