คู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อม ต้องทำอย่างไร มีทางออกอะไรบ้าง

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่สิ่งที่อาจสร้างความกังวลใจยิ่งกว่าคือสถานการณ์โดนรถชนคู่กรณีไม่รับผิดชอบ หรือเมื่อเจอเหตุการณ์คู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อมตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้เราต้องวุ่นวาย เสียเวลา และอาจต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเอง วันนี้ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจมีคำแนะนำเมื่อเจอสถานการณ์ชนแล้วไม่รับผิดชอบมาฝากกัน

คู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อม จัดการได้ใน 6 ขั้นตอน

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหารถชนคู่กรณีไม่รับผิดชอบ หรือคู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อม สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องตั้งสติ อย่าใช้อารมณ์ และทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างรอบคอบ เพื่อรวบรวมข้อมูลสำคัญและปกป้องสิทธิ์ของคุณเมื่อโดนรถชน

1. เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุให้ครบถ้วน

ทันทีหลังจากเกิดเหตุโดนรถชน และแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว ให้รีบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุทันที ถ่ายรูปความเสียหายของรถทั้งสองคันจากหลายๆ มุม ถ่ายภาพให้เห็นตำแหน่งรถ ทะเบียนรถ และสภาพแวดล้อมโดยรอบ หากสามารถถ่ายวิดีโอได้ก็จะดีมาก หลักฐานเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งหากคู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อม หรือแสดงท่าทีไม่ดีเมื่อรถชนคู่กรณีไม่ยอมรับผิด

2. แจ้งเจ้าหน้าที่ประกันและตำรวจให้มาตรวจสอบ

หากรถของคุณมีประกันภัย ควรโทรแจ้งบริษัทประกันทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่เคลมเดินทางมาตรวจสอบและให้คำแนะนำ และไม่ว่าจะมีประกันหรือไม่ การแจ้งตำรวจ (โทร 191) ให้มายังที่เกิดเหตุก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อโดนรถชนคู่กรณีไม่รับผิดชอบ หรือมีท่าทีบ่ายเบี่ยง ตำรวจจะช่วยลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และอาจช่วยไกล่เกลี่ยเบื้องต้นได้ กรณีเจอคู่กรณีที่ชนแล้วไม่รับผิดชอบ การมีบันทึกของตำรวจจะช่วยได้มาก

3. จดบันทึกข้อมูลคู่กรณีและหาพยานในที่เกิดเหตุ

ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ ควรขอแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคู่กรณี จดชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, เลขทะเบียนรถ, ยี่ห้อ/รุ่น/สีรถ และถ้าเป็นไปได้ ขอถ่ายรูปใบขับขี่และหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยของคู่กรณีไว้ด้วย นอกจากนี้ ควรมองหาพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์โดนรถชน เช่น คนเดินเท้า ร้านค้าใกล้เคียง หรือรถคันอื่น ๆ และขอข้อมูลติดต่อเผื่อไว้ในกรณีที่คู่กรณีไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย หรือรถชนคู่กรณีไม่ยอมรับผิดในภายหลัง

4. ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและกล้องติดรถยนต์

กล้องติดหน้ารถของคุณคือพยานปากเอกที่ดีที่สุดเมื่อเกิดเหตุโดนรถชนคู่กรณีไม่รับผิดชอบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล้องบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ และเก็บไฟล์นั้นไว้ให้ดี นอกจากกล้องติดรถเราแล้ว ให้ลองสังเกตบริเวณโดยรอบว่ามีกล้องวงจรปิดอื่น ๆ ที่อาจจับภาพขณะเกิดเหตุรถชนได้หรือไม่ เช่น กล้องตามอาคาร ร้านค้า หรือกล้องจราจรของทางราชการ ภาพจากกล้องเหล่านี้สามารถใช้ยืนยันข้อเท็จจริงได้ดี หากรถชนคู่กรณีไม่ยอมรับผิด

5. แจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ

หากการเจรจาในที่เกิดเหตุไม่สามารถตกลงกันได้ หรือคู่กรณีแสดงเจตนาชัดเจนว่าจะชนแล้วไม่รับผิดชอบ หรือมีแนวโน้มว่าคู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อมแน่นอน ควรเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุอย่างเป็นทางการ (ไม่ใช่แค่ลงบันทึกประจำวัน) เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับคู่กรณีในส่วนอาญา (หากมีความผิด เช่น ขับรถประมาท) และเพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งต่อไปเมื่อเจอปัญหารถชนคู่กรณีไม่รับผิดชอบ

6. ดำเนินการทางกฎหมายเรียกร้องค่าเสียหาย

หากทำตามขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว แต่คู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อม และไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ หรือคู่กรณีไม่ยอมจ่ายค่าสินไหมตามที่ควรจะเป็น ทางออกสุดท้ายคือการดำเนินการทางกฎหมาย โดยยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง ควรปรึกษาทนายความเพื่อประเมินพยานหลักฐานและวางแผนการฟ้องร้อง โดยเฉพาะเมื่อเจอสถานการณ์โดนรถชนคู่กรณีไม่รับผิดชอบอย่างชัดเจน หรือคู่กรณีไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย

หากคู่กรณีไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย ควรรับมือยังไง

เมื่อสถานการณ์ดำเนินมาถึงจุดที่คู่กรณีไม่ยอมจ่ายค่าสินไหมทดแทน หรือยืนกรานว่าชนแล้วไม่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม วิธีการรับมือหลังจากนั้นอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณและคู่กรณีมีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1, 2+, 3+, 3) คุ้มครองอยู่หรือไม่

กรณีเรามีประกัน

หากรถของคุณมีประกันภัยภาคสมัครใจ (โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1,  ประกันชั้น 2+, หรือประกันชั้น 3+ ที่คุ้มครองรถเรา) การรับมือกับปัญหาคู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อมจะง่ายขึ้นมาก คุณสามารถแจ้งเคลมกับบริษัทประกันของคุณได้เลย บริษัทฯ จะประเมินความเสียหายและจัดการเรื่องการซ่อมรถของคุณตามเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์ จากนั้นบริษัทประกันจะเป็นผู้รับช่วงสิทธิ์ในการไปไล่เบี้ย หรือเรียกร้องค่าเสียหายต่อจากคู่กรณีที่รถชนคู่กรณีไม่ยอมรับผิดเอง ทำให้คุณไม่ต้องไปติดตามทวงถาม หรือกังวลเรื่องคู่กรณีไม่ยอมจ่ายค่าสินไหมโดยตรง

กรณีไม่มีประกันทั้งสองฝ่าย

สถานการณ์นี้อาจจะยุ่งยากที่สุด หากเกิดเหตุโดนรถชนคู่กรณีไม่รับผิดชอบ และทั้งคุณและคู่กรณีไม่มีประกันภัยภาคสมัครใจคุ้มครองเลย คุณจะต้องอาศัยพยานหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมไว้ ตั้งแต่ภาพถ่าย บันทึกประจำวัน ไปจนถึงพยานบุคคล เพื่อใช้ในการเจรจาต่อรองค่าเสียหายโดยตรงกับคู่กรณี หากคู่กรณีไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย หรือปฏิเสธความรับผิดชอบ และคู่กรณีไม่ยอมจ่ายค่าสินไหม คุณอาจจำเป็นต้องจ้างทนายความเพื่อฟ้องร้องคดีแพ่ง ซึ่งต้องเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการดำเนินคดี การโดนรถชนแบบนี้ต้องอาศัยความอดทนในการติดตามเรื่อง

การประนีประนอม

ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการฟ้องร้องซึ่งอาจใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่าย ลองพิจารณาช่องทางการประนีประนอมหรือไกล่เกลี่ยดูก่อน อาจนัดเจรจากันอีกครั้งโดยมีคนกลางที่น่าเชื่อถือ หรือขอความช่วยเหลือจากหน่วยงาน เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งมีบริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัยและอุบัติเหตุรถยนต์ หรือการไกล่เกลี่ยที่สถานีตำรวจ บางครั้งการยอมรับข้อเสนอค่าเสียหายที่อาจไม่เต็มจำนวน แต่อยู่ในระดับที่พอรับได้ อาจเป็นทางออกที่ดีกว่าการสู้คดีระยะยาว แม้ในตอนแรกคู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อม หรือเกิดเหตุรถชนคู่กรณีไม่ยอมรับผิดก็ตาม

สรุปเรื่อง คู่กรณีชนแล้วไม่จ่ายค่าซ่อม ต้องทำอย่างไร 

การโดนรถชนคู่กรณีไม่รับผิดชอบเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ก็สามารถจัดการได้หากเราตั้งสติ รวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน และดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง แต่สำคัญที่สุดก็คือการไม่ขาดต่อประกันภัยรถยนต์กับทาง ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ มีบริการประกันภัยรถยนต์จากบริษัทชั้นนำมากมายให้เลือกได้ตรงใจ ประกันรถยนต์ผ่อนเงินสดหลักร้อย ได้นานสูงสุดถึง 12 งวด ไม่มีดอกเบี้ย และทำงานภายใต้หลักการ “มั่นใจ โปร่งใส และถูกกฎหมาย” จากประสบการณ์กว่า 40 ปี สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศ. ศาลาสีส้มทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือแอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์” มีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาผ่านแอปพลิเคชัน หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.sawad.co.th หรือจะทักมาคุยกันใน LINE Official: @srisawad ก็ได้ หรือถ้าอยากคุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรง โทร. 1652 ได้เลย 

หมายเหตุ :

• เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
• นายหน้าประกันวินาศภัย : บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด
• เลขที่ใบอนุญาต : ว00011/2561