ขับรถส่วนตัวไปรับส่งผู้โดยสาร ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม

ถึงแม้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุชนแบบมีคู่กรณี และ ไม่มีคู่กรณี รวมไปถึงกรณีรถหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม แต่ก็ยังมีบางเคสที่เราไม่สามารถขอเคลมได้ แล้วในกรณีที่เราเอารถยนต์ส่วนตัว มาขับรถรับส่งผู้โดยสารหารายได้ล่ะ ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ จะพาไปหาคำตอบกัน 

รถยนต์ส่วนบุคคลและรถรับจ้าง ต่างกันที่สีป้ายทะเบียน 

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า รถยนต์ที่เราเห็นกันทั่วไปตามท้องถนน จะมีการจดประเภทใช้งานและสีป้ายทะเบียนรถที่ต่างกัน  เช่น ป้ายทะเบียนสีเหลือง ป้ายทะเบียนสีขาว เพื่อให้เจ้าหน้าสามารถจำแนกประเภทรถได้ง่าย และส่งผลต่อความคุ้มครองของประกันรถยนต์ด้วยเช่นกัน

ป้ายทะเบียนสีเหลือง 

เรียกสั้น ๆ ว่า “รถป้ายเหลือง” จะมีตัวหนังสือสีดำ สีพื้นหลังของป้ายเป็นสีเหลือง หมายถึง รถที่ใช้รับ-ส่งผู้โดยสารได้ ทั้งรถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน (รถแท๊กซี่) และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 

ป้ายทะเบียนสีขาว 

หรือที่เรียกกันว่า “รถป้ายขาว” จะมีตัวหนังสือสีดำ สีพื้นหลังของป้ายเป็นสีขาว หมายถึง ป้ายทะเบียนรถส่วนตัว ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ได้แก่  รถเก๋ง รถกระบะ 4 ประตู และรถยนต์ทั่วไปที่ไม่ใช่รถบรรทุก ซึ่งรถที่มีป้ายสีขาวนี้ หากเรานำมาใช้รับจ้างส่งคนหรือส่งของ ก็จะถือว่าเป็นการใช้งานที่ผิดประเภท 

เอารถส่วนตัวมาขับรับจ้าง ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม?

ในกรณีที่เรานำรถยนต์ส่วนตัวป้ายขาวมาใช้ขับรับจ้าง แล้วเรามีทั้ง ประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.รถยนต์) และ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ คือ ประกันรถชั้น 1, ชั้น 2+, 3+ สามารถแจกแจงความคุ้มครองได้ ดังต่อไปนี้

 ไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถเรา 

ถึงแม้ประกันภาคสมัครใจที่เรามีจะเป็นประกันชั้น 1 ก็ตาม แต่กรณีนี้บริษัทประกันจะไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถของเรา เพราะถือเป็นการใช้รถผิดประเภท ซึ่งไม่อยู่ในข้อตกลงของกรมธรรม์ ทั้งนี้การใช้รถยนต์ต้องเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่ใช่รถรับจ้างหรือให้เช่า เพราะการใช้รับจ้างหรือให้เช่ามีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป

ให้ความคุ้มครองคู่กรณี

ประกันยังให้ความคุ้มครองแก่คู่กรณีหรือผู้โดยสารทั้งร่างกายและทรัพย์สิน เพียงแต่เราในฐานะผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบในการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ตามเงื่อนไขกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.) ระบุไว้ เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง และตามเงื่อนไขของประกันภัยภาคสมัครใจอีก 2,000 บาท เนื่องจากใช้รถยนต์ผิดประเภท 

จะเห็นว่า การทำความเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ที่อยู่ในกรมธรรม์ประกันภัยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบางครั้งอาจเข้าเงื่อนไขยกเว้นความคุ้มครองได้ อย่างในกรณีนี้แม้จะไม่ให้ความคุ้มครองต่อรถเรา แต่ก็ยังให้ความคุ้มครองทรัพย์สินและร่างกายของคู่กรณี ดังนั้น การทำประกันรถยนต์ จึงเป็นการวางแผนความเสี่ยงทางการเงินที่สำคัญมาก ๆ อีกทางหนึ่ง  

สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์แบบคุ้ม ๆ อย่าลืมนึกถึง ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ เพราะที่นี่เรามีแผนประกันให้เลือกมากมาย พร้อมให้เลือกผ่อนชำระเงินสดดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 12 งวด มีสาขาให้บริการครอบคลุมกว่า 5,500 สาขาทั่วไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1652 หรือ LINE Official @srisawad