ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง ทำผ่านออนไลน์ง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

ต้องต่อ พ.ร.บ. และภาษีรถยนต์แต่ไม่อยากเดินทางไปขนส่ง หรือทำงานหนักจนไม่มีวันว่าง สามารถทำอย่างไรได้บ้าง? บอกเลยว่าไม่ต้องเป็นกังวล เพราะสมัยนี้คุณสามารถต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ได้แล้ว หากคุณอยากรู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง และจะต่อ พ.ร.บ. ผ่านทางออนไลน์ได้ที่ไหน เรามีคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้

พ.ร.บ. รถยนต์คืออะไร?

สิ่งแรกที่คุณควรเรียนรู้เกี่ยวกับการต่อ พ.ร.บ. ก็คือความหมายของ พ.ร.บ. รถยนต์นั่นเอง เพราะหลายคนไม่รู้ว่า พ.ร.บ. รถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

พ.ร.บ. รถยนต์ คือประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ซึ่งถูกกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้เจ้าของรถ ที่มีชื่อในเล่มทะเบียนรถยนต์ หรือผู้ครอบครองรถในกรณีเป็นผู้เช่าซื้อรถต้องมีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับสำหรับรถยนต์คันนั้น ๆ และจำเป็นต้องต่ออายุ พ.ร.บ. ในทุก ๆ ปี และการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ด้วยเช่นกัน เพราะหากจะทำการชำระภาษีรถยนต์ คุณจำเป็นต้องใช้ข้อมูล หรือเอกสาร พ.ร.บ. รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุด้วย

รถประเภทไหนบ้างที่ต้องมี พ.ร.บ.?

พ.ร.บ. รถยนต์เป็นประกันภาคบังคับที่จำเป็นสำหรับรถทุกคัน ทุกประเภทที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือรถบรรทุกก็จำเป็นต้องต่อ พ.ร.บ. ทั้งสิ้น

จะเป็นอย่างไรหากไม่ได้ต่อ พ.ร.บ.?

หลายคนอาจยังคงสงสัยว่าทำไมต้องต่อ พ.ร.บ. และจะเป็นอย่างไรหากไม่ได้ต่อ พ.ร.บ. ซึ่งเรามีคำตอบมาให้

หากรถยนต์ของคุณไม่ทำการต่ออายุ พ.ร.บ. ทุกปี จะต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หากมีการตรวจพบ ดังนี้

1. ปรับเป็นเงินไม่เกิน 10,000 บาท
2. ห้ามใช้รถบนท้องถนน
3. ห้ามต่อภาษีประจำปี
4. ห้ามใช้รถในเขตเมือง

นอกจากนั้น การใช้รถที่ไม่ได้ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ซึ่งเป็นประกันภาคบังคับยังอาจทำให้คุณไม่ได้รับความคุ้มครองใด ๆ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะนอกจากจะไม่มี พ.ร.บ. คุ้มครองแล้ว ประกันรถยนต์ที่ซื้อเพิ่มเติมส่วนมากก็จะไม่ให้ความคุ้มครองรถที่ไม่มี พ.ร.บ. หรือ พ.ร.บ. หมดอายุด้วยเช่นกัน

ซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ทั้งเก๋ง และกระบะกับศรีสวัสดิ์

หากคุณกำลังมองหา พ.ร.บ. ใหม่สำหรับรถยนต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง หรือรถกระบะ ศรีสวัสดิ์พร้อมให้บริการคุณแล้วทุกสาขาทั่วประเทศ โดยศรีสวัสดิ์มีประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองภาคบังคับให้คุณซื้อได้ในราคาที่จริงใจ และเบี้ยประกันภัยจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และอายุรถที่เอาประกัน

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ที่ไหนได้บ้าง?

การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์สามารถเดินทางไปที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดในพื้นที่ก็ได้ หรือจะดำเนินการผ่านทางออนไลน์ก็สะดวก ซึ่งการต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์นั้นเป็นวิธีที่สะดวก และกำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

จะต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ที่กรมการขนส่งทางบก

• พ.ร.บ. ที่ต่อใหม่ (จะมีตัวแทนบริษัทประกันภัยคอยช่วยเหลือ)
• สำหรับรถอายุไม่เกิน 7 ปี: ใช้แค่สมุดคู่มือทะเบียนรถหรือสำเนา
• สำหรับรถอายุเกิน 7 ปี: ต้องมีใบตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)

ต่อ พ.ร.บ. ที่ไปรษณีย์

• พ.ร.บ. ที่ต่อใหม่
• สำหรับรถอายุไม่เกิน 7 ปี: สมุดคู่มือทะเบียนรถตัวจริง
• สำหรับรถอายุเกิน 7 ปี: ใบรับรองการตรวจสภาพรถจาก ตรอ.

ค่าบริการ: ประมาณ 40 บาท (อาจแตกต่างตามสาขา)

ต่อ พ.ร.บ. ที่ห้างสรรพสินค้า

• พ.ร.บ. ที่ต่อใหม่
• สำหรับรถอายุไม่เกิน 7 ปี: สมุดคู่มือทะเบียนรถตัวจริง
• สำหรับรถอายุเกิน 7 ปี: ใบรับรองการตรวจสภาพรถจาก ตรอ.

ต่อ พ.ร.บ. ที่ ธ.ก.ส.

• พ.ร.บ. ที่ต่อใหม่
• สำหรับรถอายุไม่เกิน 7 ปี: สมุดคู่มือทะเบียนรถตัวจริง
• สำหรับรถอายุเกิน 7 ปี: ใบรับรองการตรวจสภาพรถจาก ตรอ.

ต่อ พ.ร.บ. ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส

• พ.ร.บ. ที่ต่อใหม่
• สมุดคู่มือทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา
• บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
• สำหรับรถใช้แก๊สธรรมชาติ: ต้องมีใบตรวจสอบและทดสอบการติดตั้งอุปกรณ์

ค่าบริการ 20 บาท และค่านำส่งป้ายภาษี 40 บาท

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ออนไลน์

• หลักฐานการเอาประกันภัยตาม พ.ร.บ.
• สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (ตัวจริงหรือสำเนา)
• บัตรประชาชนของเจ้าของรถ
• หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถจาก ตรอ. (สำหรับรถอายุเกิน 7 ปี)
• หนังสือรับรองการตรวจและทดสอบอุปกรณ์ (สำหรับรถติดตั้งแก๊สธรรมชาติ)

ต่อ พ.ร.บ. ภาษีรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบก

ในการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบก จะต้องใช้เอกสารดังต่อไปนี้

• สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา
• เอกสาร พ.ร.บ. รถยนต์ ที่ยังไม่หมดอายุ
• ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (กรณีที่รถมีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป)
• เงินสำหรับอัตราภาษีรถยนต์ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522

ต่อ พ.ร.บ. ภาษีรถยนต์ออนไลน์

อย่างไรก็ตาม หากคุณจะทำการต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ ก็สามารถใช้เพียงข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ เจ้าของรถยนต์ และ พ.ร.บ. รถยนต์ได้ พร้อมเตรียมตัวชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งการชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์นั้นสามารถทำได้ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่

1. เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก : https://eservice.dlt.go.th
2. แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ที่สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android

โดยมีขั้นตอนการต่อ พ.ร.บ. ภาษีรถยนต์ง่าย ๆ ดังนี้

• เข้าสู่เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน จากนั้นลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ
• เลือกบริการชำระภาษีรถยนต์
• กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ และเจ้าของรถ
• กรอกรายละเอียดหลักฐานการเอาประกันตาม พ.ร.บ.
• ชำระเงินค่าภาษีรถยนต์
• เลือกวิธีการรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีรถยนต์
• รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้เลย

ขั้นตอนทั้งหมดนี้จะใช้เวลาไม่นาน เพียงประมาณ 15 นาที คุณก็สามารถต่อ พ.ร.บ. และชำระภาษีรถยนต์ด้วยตนเองที่บ้านได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารใด ๆ และไม่จำเป็นต้องออกเดินทาง และที่สำคัญคือสามารถทำผ่านเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป หรือแม้แต่สมาร์ตโฟนก็สามารถทำได้

พ.ร.บ. รถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

พ.ร.บ. ย่อมาจาก “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ” ซึ่งเป็นประกันภัยภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกคันต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ โดย พ.ร.บ. จะให้ความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากรถ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทน

ค่าเสียหายเบื้องต้น

ค่าเสียหายเบื้องต้นนี้ ถือเป็นการช่วยเหลือเร่งด่วน เพราะผู้ประสบภัยจะได้รับเงินช่วยเหลือทันที โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ว่าใครผิดใครถูก ซึ่งแบ่งเป็น

• ค่ารักษาพยาบาล: จ่ายตามจริง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน
• กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร: 35,000 บาทต่อคน

โดยรวมแล้ว ค่าเสียหายเบื้องต้นนี้จะจ่ายสูงสุดไม่เกิน 65,000 บาทต่อคน

ค่าสินไหมทดแทน

ส่วนนี้จะได้รับเพิ่มเติมหลังจากพิสูจน์แล้วว่าเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้น ดังนี้

• ค่ารักษาพยาบาล: จ่ายตามจริง สูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน
• กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร: 500,000 บาทต่อคน
• กรณีสูญเสียอวัยวะ: ตามเกณฑ์ ตั้งแต่ 250,000 – 500,000 บาทต่อคน
• ค่าชดเชยรายวัน: กรณีนอนโรงพยาบาล 200 บาทต่อวัน (ไม่เกิน 20 วัน หรือ 4,000 บาท)

หมายเหตุ: ยอดรวมสูงสุดของค่าสินไหมทดแทนต้องไม่เกิน 304,000 บาทต่อคน

ไม่ใช่เจ้าของรถเบิก พ.ร.บ. ได้ไหม

เชื่อหรือไม่ครับว่า แม้คุณจะไม่ใช่เจ้าของรถ แต่ถ้าคุณใช้รถของคนอื่นแล้วเกิดอุบัติเหตุ คุณสามารถเบิก พ.ร.บ. ได้เหมือนกับเจ้าของรถเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น แม้คุณจะไม่มีใบขับขี่ หรือใบขับขี่หมดอายุ ก็ยังสามารถเบิกได้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้? เพราะ พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร โดยมีเงื่อนไขสำคัญที่คุณต้องรู้ ดังนี้

• รถต้องมี พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ: นี่คือเงื่อนไขแรกและสำคัญที่สุด ถ้ารถไม่มี พ.ร.บ. หรือ พ.ร.บ. หมดอายุ คุณจะไม่สามารถเบิกได้เลย
• ต้องเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต: พ.ร.บ. จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อร่างกายหรือชีวิตเท่านั้น ไม่รวมถึงความเสียหายของตัวรถ
• ฝ่ายผิดมีสิทธิ์เบิกได้น้อยกว่า: ถ้าพิสูจน์แล้วว่าคุณเป็นฝ่ายผิด คุณจะเบิกได้เพียงค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น

ดังนั้น ก่อนจะยืมรถใคร อย่าลืมถามเรื่อง พ.ร.บ. ก่อนให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยและความอุ่นใจของคุณเอง

ต่อ พ.ร.บ. ต้องตรวจสภาพรถไหม

“ต่อ พ.ร.บ. ต้องตรวจสภาพรถไหม?” คำตอบคือ “บางกรณีต้องตรวจ” โดยรถที่ต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อ พ.ร.บ. ได้แก่

• รถยนต์อายุ 7 ปีขึ้นไป: ถ้าคุณมีรถยนต์ที่ใช้งานมาแล้ว 7 ปีหรือมากกว่า คุณต้องพารถไปตรวจสภาพที่ ตรอ. (สถานตรวจสภาพรถเอกชน) ทุกปีก่อนต่อ พ.ร.บ.
• รถมอเตอร์ไซค์อายุ 5 ปีขึ้นไป: สำหรับเพื่อน ๆ ที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ ถ้ารถของคุณมีอายุ 5 ปีขึ้นไป ก็ต้องตรวจสภาพที่ ตรอ. เช่นกัน
• รถที่ภาษีขาดเกิน 1 ปี: นี่เป็นกรณีพิเศษนะครับ ไม่ว่ารถของคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ถ้าคุณขาดต่อภาษีรถยนต์เกิน 1 ปี คุณจำเป็นต้องพารถไปตรวจสภาพก่อนต่อ พ.ร.บ. เสมอ 

สรุปการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์

พ.ร.บ. ใกล้หมดอายุ ไม่รู้จะไปต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ที่ไหนดี? เลือกต่อ พ.ร.บ. ผ่านทางออนไลน์ หรือแวะมาที่ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ สาขาใกล้บ้านคุณ ซึ่งจะเปลี่ยนเรื่องต่อ พ.ร.บ. ที่ยุ่งยาก ให้เป็นเรื่องง่าย ๆ แถมรอรับ พ.ร.บ. ได้เลย หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ พร้อมดูแลคุณในทุกการเดินทาง ด้วยบริการประกันรถยนต์ชั้น 1 จากบริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำ ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกความต้องการ ผ่อนเงินสด 0% นานสูงสุด 12 งวดและตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง จากประสบการณ์กว่า 40 ปีในวงการสินเชื่อ ที่ยึดคติการทำงาน “มั่นใจ โปร่งใส และถูกกฎหมาย” และพร้อมเติบโต คู่ชาวไทย หากสนใจบริการสินเชื่อ สามารถติดต่อ ศ.ศาลาสีส้มทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่ www.sawad.co.th LINE Official: @srisawad และโทร. 1652 เพื่อรับคำปรึกษาฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ขอให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความอุ่นใจ