บทความ > แชร์ขั้นตอนเคลมประกันรถยนต์ง่าย ๆ ที่มือใหม่ก็ทำได้
การเคลมประกัน
แชร์ขั้นตอนเคลมประกันรถยนต์ง่าย ๆ ที่มือใหม่ก็ทำได้

สนใจขอสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว


ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


สนใจทำประกัน ผ่อนเงินสด ไม่มีดอกเบี้ย

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


แชร์ขั้นตอนเคลมประกันรถยนต์ง่าย ๆ ที่มือใหม่ก็ทำได้

การใช้รถยนต์สามารถเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบมีคู่กรณี เช่น การขับรถชนกับรถอีกคัน และแบบไม่มีคู่กรณีเช่น ขับรถชนต้นไม้ รถชนเสาไฟฟ้า ถอยชนรั้วบ้าน ชนกระถางต้นไม้ การถูกชนแล้วหนี น้ำท่วมรถ ต้นไม้โค่นทับรถ เป็นต้น ขั้นตอนในการเคลมแต่ละกรณีก็อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย 

นอกจากนี้การเคลมความคุ้มครองกับบริษัทประกันยังมีการแบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยทั่วไปจะเรียกว่า เคลมสด และเคลมแห้ง ทั้ง 2 แบบต่างกันตรงที่การเคลมสดจะเป็นการเคลมประกัน ณ ที่เกิดเหตุ แต่เคลมแห้งจะเป็นการเคลมประกันหลังจากเกิดเหตุไปแล้วแต่ไม่ควรเกิน 2-3 วัน 

การเคลมประกันรถยนต์คืออะไร

การเคลมประกันรถยนต์ คือ กระบวนการที่ผู้เอาประกันแจ้งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ให้บริษัทประกันภัยทราบ เพื่อขอรับค่าสินไหมทดแทนหรือการซ่อมแซมตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ การเคลมประกันจะเกิดขึ้นเมื่อรถยนต์ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ หรือการโจรกรรม

การเคลมประกันรถยนต์มีกี่ประเภท

การเคลมประกันรถยนต์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ การเคลมประกันแบบสดและการเคลมประกันแบบแห้ง แต่ละประเภทมีลักษณะและขั้นตอนที่แตกต่างกัน ซึ่งเราจะอธิบายรายละเอียดของแต่ละประเภทในหัวข้อถัดไป

1. เคลมประกันรถยนต์แบบสด

การเคลมประกันรถยนต์แบบสด หมายถึง การแจ้งเคลมทันทีที่เกิดเหตุ ณ จุดเกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันเดินทางมาตรวจสอบความเสียหายและดำเนินการเคลมให้ทันที วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรง มีผู้บาดเจ็บ หรือมีคู่กรณี การเคลมแบบสดช่วยให้การจัดการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการเกิดข้อพิพาทในภายหลัง

2. เคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง

การเคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง หรือที่เรียกว่า “การเคลมประกันรถรอบคัน” คือ การที่ผู้เอาประกันนำรถไปเคลมที่บริษัทประกันหรืออู่ซ่อมในภายหลัง โดยไม่ได้แจ้งเคลม ณ จุดเกิดเหตุ วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่ความเสียหายไม่รุนแรง ไม่มีคู่กรณี หรือเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น รถถูกขีดข่วน หรือเฉี่ยวชนเบา ๆ โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ

ระยะเวลาพิจารณาเคลมประกันรถ

ระยะเวลาในการพิจารณาการเคลมประกันรถยนต์จะแตกต่างกันไปตามความซับซ้อนของกรณีและนโยบายของแต่ละบริษัทประกัน โดยทั่วไปมีกรอบเวลาดังนี้

  • การจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น บริษัทประกันจะพิจารณาจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
  • การจ่ายค่าสินไหมทดแทน บริษัทจะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่ซับซ้อน การพิจารณาอาจเสร็จสิ้นได้เร็วกว่านี้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของแต่ละบริษัทประกัน

ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ ณ ที่เกิดเหตุ หรือ เคลมสด

หากเกิดเหตุแล้วผู้ถือประกันรถยนต์ต้องการเคลมประกันรถยนต์ทันที ณ ที่เกิดเหตุ ปกติแล้วจะต้องให้เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันเข้ามาประเมินสถานการณ์ ซึ่งสามารถทำตามง่าย ๆ เพียง 5 ขั้นตอนได้แก่

1.ตั้งสติแล้วโทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกัน

เมื่อเกิดเหตุขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำมากที่สุดคือการตั้งสติ  และ ประเมินสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยของตัวเองให้พยายามเอาตัวเองหรือเคลื่อนรถไปข้างทางหากทำได้ จากนั้นให้โทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกัน โดยต้องแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ปลายสาย ได้แก่ หมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียนรถ และยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และ รายละเอียดของเหตุการณ์หรืออาจมีการสอบถามอื่น ๆ เพิ่มเติมแล้วแต่กรณี หลังจากนั้นบริษัทประกันจะมีการประสานตัวแทนจากบริษัทให้ออกมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์

2.ระหว่างรอตัวแทนประกัน ให้เตรียมเอกสารไว้

หลังจากติดต่อบริษัทประกันได้แล้วอาจใช้เวลาประมาณหนึ่งกว่าตัวแทนประกันจะมาถึงที่เกิดเหตุ ระหว่างนี้ให้เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่อาจได้ใช้สำหรับยื่นเรื่องเคลมความคุ้มครอง เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ หากมีการบันทึกภาพจากกล้องหน้ารถสามารถเช็กภาพเพื่อดูรายละเอียด หรือถ่ายภาพเก็บหลักฐาน และภาพจุดที่รถเกิดความเสียหายไว้

3.รอเจ้าหน้าที่ประเมินเหตุการณ์

เมื่อเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันมาถึงแล้วจะทำการประเมินเหตุการณ์ หากเหตุการณ์เป็นรถชนแบบที่มีคู่กรณีจะต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด โดยอาจมีการเรียกค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) จากฝ่ายที่ผิดเพื่อเยียวยาคู่กรณีก่อนตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัท แต่หากเหตุการณ์เป็นแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ ชนรั้ว ชนเสาไฟฟ้า กรณีนี้ผู้ขอเคลมประกันจะต้องจ่ายค่า Excess หรือเสียหายส่วนแรกก่อน 

4.รับใบประเมินความเสียหาย

เมื่อได้ประเมินเหตุการณ์และประเมินความเสียหายแล้วทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้แก่ผู้ถือประกันรถยนต์เพื่อนำรถไปซ่อมที่อู่ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดของใบประเมินความเสียหาย หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเคลมผลประโยชน์ระหว่างซ่อม สามารถสอบถามระละเอียดกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง 

5.นำรถและใบประเมินความเสียหายไปซ่อมที่อู่

ขั้นตอนนี้คือการนำรถไปเคลมกับอู่ซ่อมรถในเครือของบริษัทประกัน โดยจะต้องนำใบประเมินความเสียหายให้ทางอู่ด้วย ระยะเวลาในการซ่อมขึ้นอยู่กับความเสียหายและอู่ซ่อม ระหว่างนี้ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์สามารถติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอเคลมผลประโยชน์ระหว่างซ่อมได้ (ถ้ามี) โดยอาจมีการเรียกเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติม เช่น ใบรับรถจากอู่ซ่อม หรือภาพจากอู่ซ่อมรถ แล้วแต่ข้อกำหนดของแต่ละบริษัท

การเคลมประกันรถยนต์หลังจากเกิดเหตุ

การเคลมประกันรถยนต์หลังจากเกิดเหตุ หรือ เคลมแห้ง

รูปแบบการเคลมลักษณะนี้มักจะมีเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นการเคลมพิเศษที่เรียกว่า การเคลมรอบคันรถ มักจะเคลมจากกรณีที่รถยนต์เกิดเหตุที่มีความเสียหายเล็กน้อย เช่นการเฉี่ยวเข้ากับสิ่งกีดขวาง ฟุตบาท ต้นไม้ เสาไฟฟ้า โดยผู้ถือประกันจะต้องบันทึกเหตุการณ์อย่างละเอียด ชัดเจนว่าชนเข้ากับอะไร เกิดความเสียหายที่ตรงส่วนไหนของรถ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน โดยผู้ถือประกันรถยนต์จะต้องเป็นฝ่ายแจ้งเคลมกับบริษัทด้วยตัวเอง และไม่ควรแจ้งหลังจากเกิดเหตุ 2-3 วัน หรือนานจนเกินไป

ขั้นตอนการเคลมแห้ง

  1. เก็บหลักฐาน ผู้ถือประกันรถยนต์ควรมีการบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพถ่ายความเสียหายที่ตัวรถ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในการแจ้งเคลมกับบริษัท
  2. ติดต่อแจ้งความประสงค์กับบริษัทประกัน เมื่อผู้ถือประกันรถยนต์ติดต่อไปยังบริษัทประกันแล้วอาจมีการมีการสอบถามรายละเอียดหรือเรียกเอกสารส่วนตัวเพิ่มเติม แล้วแต่ข้อกำหนดของบริษัท จากนั้นจะมีการนัดตรวจสภาพความเสียหายของรถ
  3. รับใบประเมินความเสียหาย เมื่อทำการตรวจสอบความเสียหายต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว บริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้ผู้ถือประกันรถยนต์นำรถไปซ่อมกับอู่ซ่อมตามความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งการเคลมแห้งอาจมีการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) 1,000-4,000 บาทตามที่ได้ตกลงกับบริษัทประกัน

กรณีใดบ้างที่การเคลมประกันรถไม่คุ้มครอง

  • การใช้รถในทางผิดกฎหมาย เช่น ขนส่งยาเสพติด หรือใช้ในการก่ออาชญากรรม
  • การใช้รถแข่งความเร็ว หรือทดสอบความเร็ว
  • อุบัติเหตุที่เกิดขณะผู้ขับขี่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์)
  • การใช้รถผิดประเภท เช่น นำรถยนต์ส่วนบุคคลไปใช้รับจ้างขนของ
  • การขับรถออกนอกอาณาเขตที่คุ้มครอง เช่น ขับออกนอกประเทศโดยไม่ได้แจ้งบริษัทประกัน
  • ความเสียหายจากสงคราม การจลาจล หรือการก่อการร้าย
  • ความเสียหายจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้อง

สรุปการเคลมประกันรถยนต์

จะเห็นได้ว่าการเคลมประกันรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนที่สำคัญคือหลักฐานและเอกสารประจำรถ เพราะถือเป็นข้อมูลสำคัญในการขอเคลมประกันกับบริษัท นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งที่ผู้ขับรถยนต์ทุกคนควรจะต้องพกเอกสารประจำตัวและประจำรถยนต์ เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียน และเล่มกรมธรรม์

เมื่อเกิดเหตุแต่ละครั้งขอเพียงตั้งสติและติดต่อบริษัทประกันให้เร็วที่สุด เพื่อรับทราบข้อปฏิบัติและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้การดูแลผู้ถือประกันรถยนต์และรายละเอียดในการเคลมอาจขึ้นอยู่กับความคุ้มครองของแผนประกันและขั้นตอนการบริการของบริษัทประกัน 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก ‘ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ’ ผ่อนเงินสดนานสูงสุดถึง 12 งวด พร้อมคุ้มครองอุบัติเหตุทุกกรณีทันทีตั้งแต่งวดแรกที่ชำระ หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ว่าประกันรถยนต์ จะช่วยคุ้มครองอะไรบ้าง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศ. ศาลาสีส้มทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.sawad.co.th หรือจะทักมาคุยกันใน LINE Official: @srisawad ก็ได้ หรือถ้าอยากคุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรง โทร. 1652 ได้เลย

Share This