บทความ > 12 จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกล เพื่อความอุ่นใจในการใช้รถ
12 จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกล เพื่อความอุ่นใจในการใช้รถ
12 จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกล เพื่อความอุ่นใจในการใช้รถ

สนใจขอสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว


ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


สนใจทำประกัน ผ่อนเงินสด ไม่มีดอกเบี้ย

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


12 จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกล เพื่อความอุ่นใจในการใช้รถ

การเช็คสภาพรถก่อนเดินทางไกล ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คนใช้รถต้องห้ามมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ที่อายุใช้งานไม่นานมาก หรือจะเป็นรถเก่าที่บำรุงรักษาอย่างดีก็ตาม เพราะชิ้นส่วนหรือระบบต่าง ๆ อาจมีปัญหาขึ้นได้ตลอดเวลา วันนี้ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ มี 12 จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกล ที่ใคร ๆ ก็ตรวจดูได้เองมาฝากกัน 

ทำไมต้องตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางไกล

การเช็คสภาพรถก่อนเดินทางไกลเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้การเดินทางราบรื่นแล้ว ยังมีประโยชน์หลายด้านที่คุณอาจคาดไม่ถึง เช่น

  • เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง : การตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของรถให้พร้อมใช้งานช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ถนนลื่นและทัศนวิสัยไม่ดี
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว : เพราะการเช็ครถก่อนเดินทางไกลช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจสูงกว่าหากปล่อยให้เกิดความเสียหายรุนแรง
  • ลดความเสี่ยงในการเสียเวลาระหว่างทาง : การเสียรถกลางทางนอกจากจะทำให้แผนการเดินทางล่าช้าแล้ว ยังอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลากรถหรือซ่อมแซมฉุกเฉินที่มักมีราคาแพงกว่าปกติ

12 จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกลที่ใครก็ทำตามได้

12 จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกลที่ใครก็ทำตามได้

การตรวจเช็คสภาพรถก่อนเดินทางไกลไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงทำตามขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้ คุณก็สามารถเช็ครถได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นใจ

1. เช็คลมยางรถ

ยางรถเป็นจุดสัมผัสเดียวระหว่างรถกับถนน การเช็ครถก่อนเดินทางไกลจึงควรเริ่มจากการตรวจสอบลมยาง ควรวัดความดันลมยางขณะที่ยางเย็น และปรับให้ได้ตามค่ามาตรฐานที่ระบุไว้ในคู่มือ นอกจากนี้ควรสังเกตสภาพยางว่ามีรอยฉีกขาด บวม หรือดอกยางสึกหรอผิดปกติหรือไม่ เพราะหากเกิดปัญหายางระเบิดระหว่างทาง อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้

2. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องเป็นหัวใจสำคัญในการหล่อลื่นเครื่องยนต์ การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องทำได้โดยดึงก้านวัดออกมาเช็ดให้สะอาด แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นดึงออกมาดูว่าระดับน้ำมันอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX หรือไม่ หากพบว่าน้ำมันเครื่องมีสีดำคล้ำหรือข้นผิดปกติ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก่อนออกเดินทาง

3. ตรวจเช็คระบบเบรก

ระบบเบรกเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด ในการตรวจสภาพรถก่อนเดินทางไกล ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกในกระปุกพักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สังเกตการทำงานของเบรกว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น เบรกสั่น มีเสียงดังผิดปกติ หรือต้องเหยียบแป้นเบรกลึกกว่าปกติ หากพบความผิดปกติควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการทันที

4. ตรวจเช็คแบตเตอรี่

แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของระบบไฟฟ้าในรถ ควรตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ว่ามีคราบสีขาวหรือสนิมหรือไม่ หากพบให้ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และสังเกตว่าการสตาร์ทเครื่องยนต์เป็นปกติหรือไม่ หากมีอาการติดยาก ควรพิจารณาเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

5. เช็คการทำงานของไฟหน้าและไฟท้าย

เช็คการทำงานของไฟหน้าและไฟท้าย

ระบบไฟส่องสว่างมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางในเวลากลางคืน ตรวจสอบการทำงานของไฟทุกดวงทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรก ให้แน่ใจว่าทุกดวงสามารถใช้งานได้ตามปกติ หากพบว่าดวงใดไม่ทำงานหรือแสงสว่างน้อยผิดปกติ ควรเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ทันที

6. ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น

ระบบหล่อเย็นมีความสำคัญอย่างมากในการควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในการเดินทางไกล การเช็คสภาพรถก่อนเดินทางไกลจึงต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในถังพัก ซึ่งควรอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX นอกจากนี้ควรตรวจสอบการรั่วซึมตามท่อยางและข้อต่อต่างๆ รวมถึงสังเกตสีของน้ำหล่อเย็นว่ามีสีผิดปกติหรือมีตะกอนหรือไม่

7. เช็คระบบปรับอากาศ

แม้ระบบปรับอากาศจะไม่ใช่ระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยโดยตรง แต่การตรวจเช็คระบบปรับอากาศก่อนเดินทางไกลก็มีความสำคัญ เพราะความร้อนและความอึดอัดในห้องโดยสารอาจส่งผลต่อสมาธิในการขับขี่ได้ ควรตรวจสอบว่าเครื่องปรับอากาศทำความเย็นได้ปกติ ไม่มีเสียงดังผิดปกติ และไม่มีกลิ่นอับชื้น หากพบปัญหาควรนำรถเข้าตรวจเช็คระบบที่ศูนย์บริการ

8. เช็คการทำงานที่ปัดน้ำฝน

ที่ปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการขับขี่ในสภาพอากาศที่มีฝน การตรวจสภาพรถก่อนเดินทางไกลจึงควรตรวจสอบสภาพยางปัดน้ำฝนว่ามีการฉีกขาด เสื่อมสภาพ หรือแข็งตัวหรือไม่ ทดสอบการทำงานว่าสามารถปัดน้ำได้สะอาดและไม่มีเสียงดังรบกวน หากพบว่าประสิทธิภาพลดลงควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

9. เช็คระบบไฟส่องสว่างภายในรถ

ไฟส่องสว่างภายในรถมีความจำเป็นสำหรับการมองเห็นในเวลากลางคืน ควรตรวจสอบการทำงานของไฟเพดาน ไฟอ่านแผนที่ และไฟส่องสว่างอื่น ๆ ภายในห้องโดยสารว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้ควรตรวจสอบสวิตช์ควบคุมว่าทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีการหลวมหรือค้าง

10. เช็คน้ำมันเชื้อเพลิงในถัง

การเช็ครถก่อนเดินทางไกลต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ควรเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนออกเดินทาง และวางแผนจุดเติมน้ำมันระหว่างทางไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยหรือมีปั๊มน้ำมันห่างกัน นอกจากนี้ควรสังเกตอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันว่าผิดปกติหรือไม่

11. เช็คการทำงานของแตร

แตรเป็นอุปกรณ์สำคัญในการส่งสัญญาณบนท้องถนน การตรวจสอบระบบแตรก่อนเดินทางไกลจึงไม่ควรมองข้าม เพียงทดสอบว่าแตรมีเสียงดังชัดเจน ไม่แหบแห้งหรือเบาผิดปกติ และสวิตช์แตรทำงานได้สะดวก ไม่ติดขัด เพราะแตรอาจมีความจำเป็นในการส่งสัญญาณเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

12. ตรวจดูไฟเตือนที่เรือนไมล์

ก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบไฟเตือนต่างๆ ที่แผงหน้าปัดว่าไม่มีสัญญาณผิดปกติ โดยเฉพาะไฟเตือนระบบเครื่องยนต์ เบรก ถุงลมนิรภัย และระบบ ABS หากพบว่ามีไฟเตือนใดติดค้าง ควรนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจตลอดการเดินทาง

สรุปบทความ 12 จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกล เพื่อความอุ่นใจในการใช้รถ

จะเห็นได้ว่าการเช็ครถก่อนเดินทางไกลทั้ง 12 จุด เป็นสิ่งที่ทำตามได้ง่ายมาก ๆ ต่อให้ไม่มีความรู้เรื่องรถเลยก็ตาม อีกทั้งยังใช้เวลาไม่นานอีกด้วย และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้ ก็คือการทำประกันรถยนต์โดยไม่ขาดต่ออายุ และไม่ว่าคุณจะเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ พร้อมดูแลคุณในทุกการเดินทางด้วยบริการประกันรถยนต์จากบริษัทชั้นนำที่ครอบคลุม และตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมข้อเสนอพิเศษผ่อนเงินสด 0% นานสูงสุด 12 งวด และทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษา จากประสบการณ์กว่า 40 ปี ที่ยึดคติการทำงาน “มั่นใจ โปร่งใส และถูกกฎหมาย” พร้อมเติบโต คู่ชาวไทยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศ.ศาลาสีส้มสาขาใกล้บ้านคุณ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sawad.co.th และ LINE Official: @srisawad หรือโทร. 1652 เพื่อรับคำปรึกษาฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ขอให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความอุ่นใจ

Share This