บทความ > ประกันรถยนต์แต่ละชั้น ต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบบไหน ?
ประกันชั้น 1 ต่างกับประกันชั้น 2 อย่างไร
ประกันรถยนต์แต่ละชั้น ต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบบไหน ?

สนใจขอสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว


ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


สนใจทำประกัน ผ่อนเงินสด ไม่มีดอกเบี้ย

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าในการติดต่อเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ


ประกันรถยนต์แต่ละชั้น ต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบบไหน ?

เทียบประกันรถยนต์ ชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 2+ ชั้น 3 และชั้น 3+ ต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบบไหน ?

ไม่ว่าจะตั้งสติก่อนสตาร์ตรถกี่ครั้ง อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน การทำประกันรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถยนต์ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน และแน่นอนว่า เมื่อพูดถึงการพิจารณาทำประกันภัยสำหรับรถยนต์ นอกจากจะต้องเทียบเบี้ยประกันรถยนต์แล้ว เจ้าของรถยนต์หลาย ๆ คนอาจเกิดคำถามเกี่ยวกับประกันรถยนต์แต่ละชั้น ไม่ว่าจะเป็นชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 2+ ชั้น 3 และชั้น 3+ ว่าควรเลือกอย่างไร 

หากใครกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะซื้อประกันรถยนต์ประเภทไหนดี หรือกำลังสงสัยว่าประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร ทำไมมีราคาค่าเบี้ยประกันที่ไม่เท่ากัน ทั้ง ๆ ที่ให้ความคุ้มครองไม่ต่างกันมาก หากใครกำลังสงสัยเช่นนี้อยู่ เตรียมเครื่องยนต์ให้พร้อม แล้วแวะมารู้จักกับประกันรถยนต์ในแต่ละประเภทกันได้เลย!

ประกันชั้น 1 คืออะไร?

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คือ ประกันรถยนต์รูปแบบหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกอุบัติเหตุ ทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี อีกทั้งยังให้ความคุ้มครองในเรื่องของเหตุสุดวิสัยอย่างภัยธรรมชาติ น้ำท่วม รถหาย และรถไฟไหม้อีกด้วย 

นอกจากนี้ ประกันชั้น 1 ยังช่วยคุ้มครองและรับผิดชอบคู่กรณีด้วยเช่นกัน ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันประเภทนี้จะชดเชยค่าอุบัติเหตุ ค่าซ่อมรถยนต์ และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของคู่กรณีให้ ถือเป็นประกันรถยนต์อีกหนึ่งประเภทที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบที่มีต่อตัวเองและผู้ร่วมใช้ท้องถนนอย่างแท้จริง

ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมกับทุกอุบัติเหตุและความเสียหาย ประกันชั้น 1 จึงเหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับที่ยังไม่เชี่ยวชาญการขับรถยนต์มากนัก ไปจนถึงรถยนต์คันใหม่ที่เพิ่งถอยมาได้หมาด ๆ รวมทั้งรถยนต์ทุกรุ่นและราคาที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี

ประกันชั้น 2+ คืออะไร ?

หากรู้สึกว่ารถยนต์ที่ขับขี่อยู่นั้น มีอายุการใช้งานที่นานกว่า 7 ปีแล้ว รวมถึงประสบการณ์การขับขี่ และงบประมาณของตัวเองยังไม่ลงล็อกกับประกันชั้น 1 บริษัทประกันภัยชั้นนำหลาย ๆ แห่งก็มาพร้อมกับตัวเลือกอย่างประกันชั้น 2+ ให้เจ้าของรถยนต์ทุกคนได้พิจารณาเช่นกัน

ประกันชั้น 2+ จะมีความคุ้มครองทุกด้านครอบคลุมเหมือนประกันรถยนต์ชั้น 1 คือให้ความคุ้มครองในกรณีอุบัติเหตุ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต้องเป็นแบบมีคู่กรณีเท่านั้น จึงไม่เหมาะกับผู้ขับขี่มือใหม่ ที่ยังไม่เชี่ยวชาญในการควบคุมรถยนต์ ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดเหตุเฉี่ยวชนต้นไม้ เสาไฟ และอื่น ๆ ได้ง่าย 

นอกจากนี้ ประกันชั้น 2+ ยังให้ความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถยนต์ให้แก่คู่กรณีเท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองในกรณีสูญหายและไฟไหม้แก่รถยนต์ของผู้เอาประกันอีกด้วย

ประกันชั้น 2 คืออะไร ?

ในส่วนของประกันรถยนต์ชั้น 2 นั้นจะเป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองรองลงมาจากประกันรถยนต์ชั้น 2+ กล่าวคือ ประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองทรัพย์สินและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีเท่านั้น โดยไม่ให้ความคุ้มครองในทรัพย์สินหรือตัวของผู้เอาประกัน

นอกจากนี้ ประกันชั้น 2 ยังจะคุ้มครองผู้เอาประกันเฉพาะในกรณีรถยนต์สูญหายและไฟไหม้เท่านั้น ดังนั้น หากรถยนต์เสียหายจากอุบัติเหตุ แม้จะมีคู่กรณี บริษัทประกันก็จะไม่ให้ความคุ้มครอง

จากการคุ้มครองทั้งหมดนี้ ประกันชั้น 2 จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการขับขี่พอสมควร อีกทั้งยังมีพฤติกรรมขับรถยนต์ไม่ประมาทและเกิดอุบัติเหตุน้อย รวมถึงยังเหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปีอีกด้วย

ประกันชั้น 3+ คืออะไร ?

ในส่วนของประกันชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ และผู้ที่เอาประกันเป็นฝ่ายผิด โดยจะให้ความคุ้มครองในส่วนของค่าซ่อมแซมรถยนต์ รวมไปถึงชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้แก่คู่กรณีเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์สูญหายหรือว่าไฟไหม้อีกด้วย

จากความคุ้มครองของประกันชั้น 3+ จึงเหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และผู้ขับขี่มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมยานพาหนะสูง โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้น้อย อีกทั้งไม่ค่อยได้ไปจอดไว้ยังต่างสถานที่ จึงไม่เสี่ยงที่จะสูญหายได้

ประกันชั้น 3 คืออะไร ?

ประกันชั้น 3 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีราคาค่าเบี้ยน้อยที่สุด ซึ่งจะให้ความคุ้มครองเป็นค่าซ่อมแซมรถยนต์ และค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีเท่านั้น โดยไม่ให้ความคุ้มครองต่อผู้เอาประกัน ทั้งในกรณีที่เป็นฝ่ายผิดหรือไม่เป็นฝ่ายผิด อีกทั้งยังไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์สูญหายหรือเกิดเพลิงไหม้ด้วยเช่นกัน

ประกันรถยนต์ประเภทนี้ จึงเหมาะสำหรับรถที่มีอายุมากกว่า 10 ปี และไม่ค่อยได้นำมาใช้งานบ่อย หรือเป็นรถสำรองที่ใช้ภายในครอบครัว ทั้งยังจอดอยู่ในสถานที่ปลอดภัย มีโอกาสสูญหายหรือเกิดเพลิงไหม้ได้ยาก

ทำไมประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท ถึงราคาไม่เท่ากัน ?

เมื่อเทียบประกันรถยนต์ ชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 2 ชั้น 3+ และชั้น 3 นั้นจะเห็นได้ว่าให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน จึงทำให้เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายนั้นแตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากเรื่องของความคุ้มครองแล้ว เบี้ยประกันรถยนต์ทั้งในประเภทเดียวกัน หรือคนละประเภทยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น

  • ค่าเสียหายส่วนแรก หากเลือกเป็นแบบจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเอง หรือ Deductible ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ก็จะถูกลง
  • ประวัติการขับขี่ กรณีตลอดระยะเวลาความคุ้มครองของกรมธรรม์เดิมไม่เคยมีการแจ้งเคลม หรือมีประวัติการเคลมประกันรถยนต์ที่เป็นฝ่าย “ถูก” ค่าเบี้ยประกันก็จะถูกลง
  • อายุของผู้ขับขี่ ระบุผู้ขับขี่ เพื่อขอลดค่าเบี้ยประกันภัยลดลง 5-20% ขึ้นอยู่กับอายุผู้ขับขี่ อายุผู้ขับขี่ยิ่งน้อย เบี้ยประกันรถยนต์ก็ลดน้อย
  • สถานที่ซ่อมรถยนต์ เช่น หากเลือกซ่อมอู่รถยนต์ ก็อาจทำให้เบี้ยประกันราคาถูกกว่าซ่อมที่ศูนย์รถยนต์
  • วงเงินในการคุ้มครองกรณีอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การกำหนดวงเงินการรักษาพยาบาลต่อครั้ง และวงเงินคุ้มครองทรัพย์สิน เป็นต้น

ซื้อประกันรถยนต์

ประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท เจ้าของรถยนต์ควรซื้อแบบไหนดี ?

การพิจารณาเลือกซื้อประกันรถยนต์นั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เอาประกันเป็นหลัก โดยทั่วไปแล้ว การจะตัดสินใจเลือกประกันชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 2 ชั้น 3+ และชั้น 3 นั้นเริ่มต้นง่าย ๆ จากการพิจารณาอายุของรถยนต์เป็นลำดับแรก จากนั้นจึงค่อยดูถึงนิสัยและความเชี่ยวชาญในการขับขี่ เพื่อหากรมธรรม์ที่คุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุด และสุดท้ายจึงค่อยพิจารณางบประมาณของประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับตัวเอง

หากใครเพิ่งถอยรถยนต์มาใหม่ และรักรถมาก หรือเป็นมือใหม่หัดขับที่ยังไม่เชี่ยวชาญ การเลือกทำประกันชั้น 1 ก็อาจตอบโจทย์และให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า แต่สำหรับใครที่พอมีสกิลการขับรถยนต์ และต้องการประหยัดงบประมาณค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 2+ ก็อาจลงตัวกับความต้องการมากกว่า แต่สำหรับรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือ 3+ จะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด

เลือกประกันรถยนต์ที่ถูกใจเลือกใช้บริการกับ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ”

สำหรับเจ้าของรถยนต์คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกทำประกันรถยนต์แบบไหน หรือไม่รู้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ มาพร้อมกับประกันชั้น 1, 2 และทุกประเภท จากบริษัทประกันภัยชั้นนำของเมืองไทย ให้ทุกคนได้เลือกสรรตามความต้องการ มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เปรียบเทียบ และช่วยเลือกประกันรถยนต์ที่ดีที่สุดได้ พิเศษ ! เมื่อทำประกันรถยนต์ที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน สามารถเลือกผ่อนชำระ 0% ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต สบาย ๆ ได้นาน 12 งวด หากสนใจ หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 1652 หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ได้ทุกสาขาใกล้บ้าน

ศรีสวัสดิ์แนะนำ แผนประกันรถยนต์ชั้น 1  จาก ไทยไพบูลย์ 

  • คุ้มครองครอบคลุม ซ่อมเขา ซ่อมเรา  รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม 
  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,042 บาทต่องวด
  • ผ่อนสด 0% นานสูงสุด 12 งวด 
  • ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (deductible)
  • ประกันตัวผู้ขับขี่สูงสุด 200,000 บาท

สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ สามารถทำประกันได้ง่ายทางออนไลน์ พร้อมช่วยคุ้มครองทุกเหตุการณ์บนท้องถนน มีให้เลือกครบทุกประเภท ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2+ และ ชั้น 3 สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของศรีสวัสดิ์พร้อมให้บริการกว่า 5,500 สาขาทั่วประเทศไทย โทร. 1652 หรือ LINE Official @srisawad

Share This