ลอยกระทงต้องระวัง! 4 อุบัติเหตุเกิดบ่อยพร้อมวิธีป้องกัน

“ลอยกระทง” เป็นเทศกาลสำคัญของไทยที่เต็มไปด้วยความสุข แต่ก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ หากไม่ระมัดระวัง วันนี้ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ จะพามาดู 4 อุบัติเหตุที่พบบ่อยในวันลอยกระทง พร้อมทั้งวิธีป้องกัน เพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับเทศกาลอย่างปลอดภัย

1. อุบัติเหตุทางรถ

      ปกติแล้ววันลอยกระทงมักเป็นวันที่คนจำนวนมากออกจากบ้านในตอนกลางคืนเพื่อมาร่วมเทศกาลและสนุกสนานกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลอยกระทงในปี 2567 นี้ที่ตรงกับวันศุกร์ แล้ววันต่อมาเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์  มีโอกาสที่คนจะเดินทางไปเที่ยวงานลอยกระทงที่ต่างจังหวัดหรือเที่ยวงานที่จัดอยู่ไกลบ้านมากขึ้น  หลายครอบครัวออกไปด้วยกันและเดินทางด้วยรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ทำให้การจราจรคับคั่ง มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ประกอบกับเมื่อเป็นช่วงเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลอง ผู้คนมักมีการกินเลี้ยงสังสรรค์และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ จึงอาจเกิดการเมาแล้วขับ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางรถมากขึ้นด้วย

แนวทางป้องกันอุบัติเหตุ

• วางแผนการเดินทางล่วงหน้า: ตรวจสอบเส้นทางและสภาพการจราจร
• พักผ่อนให้เพียงพอ: ก่อนออกเดินทางควรพักผ่อนให้เต็มที่ หลีกเลี่ยงการขับขี่ขณะรู้สึกง่วงซึม
• ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง: ไม่ขับรถเร็วเกินกำหนด และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างพอเหมาะ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการชนท้าย
• หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: เพราะแอลกอฮอล์ส่งผลกระทบต่อสมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจ ทำให้การประมวลผลข้อมูลของสมองช้าลงการประสานงานของร่างกาย และความสามารถในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ ลดลง
• ทำประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ : โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อคุ้มครองค่าเสียหายกรณีที่เราขับรถไปชน นอกจากนี้ ยังควรทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล สำหรับผู้ที่ใช้บริการรถสาธารณะ เช่น วินมอเตอร์ไซค์ เพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
• อย่าลืมต่อ พ.ร.บ. : ในช่วงเทศกาลลอยกระทง การจราจรคับคั่งเป็นพิเศษ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจึงมีสูงขึ้น การมี พ.ร.บ. รถยนต์ จึงเป็นเหมือนการป้องกันตัวเองและผู้อื่นจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

2.อุบัติเหตุจากการจมน้ำ 

ทุกปีมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในช่วงเทศกาลนี้จำนวนมาก จากข้อมูลของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า เฉลี่ยแล้วในแต่ละปี จะมีคนจมน้ำเสียชีวิตในวันลอยกระทง ถึง 13 คน  และมีความเกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์ร้อยละ 10.6 ความเสี่ยงรองลงมาคือ ลงไปเก็บของมีค่าในกระทง  ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณริมน้ำมักมีผู้คนจำนวนมาก อาจเกิดการเบียดเสียดและพลัดตกน้ำได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่มักจะวิ่งเล่นและอยากรู้อยากเห็น อาจพลาดท่าตกลงไปในน้ำได้

แนวทางป้องกันอุบัติเหตุ

• เลือกสถานที่ปลอดภัย: เลือกจุดลอยกระทงที่มั่นคง มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และมีป้ายเตือน
• ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด: ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้ริมน้ำโดยลำพัง ควรให้เด็กยืนอยู่บนฝั่งที่ปลอดภัย และมีผู้ปกครองอย่างน้อยหนึ่งคน คอยยืนดูแลอยู่ด้วยจะดีที่สุด 
• ทำประกันอุบัติเหตุ: ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายได้กรณีเป็นผู้ป่วยใน โดยเลือกทำประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองทั้งตัวคุณและบุตรหลานหรือคนในครอบครัว 

3. อุบัติเหตุจากการปล่อยโคมลอย

ในสมัยก่อน พื้นที่การจัดงานลอยกระทงบางจังหวัดจะมีให้ผู้เข้าร่วมงานปล่อยโคมลอย เนื่องจากความเชื่อที่ว่าการปล่อยโคมจะช่วยลอยทุกข์โศกออกไปจากชีวิตแต่การปล่อมโคมก็มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายได้มากมาย เพราะโคมลอยที่ตกลงมาอาจไปติดสิ่งของที่ติดไฟง่าย เช่น หลังคาบ้าน ใบไม้แห้ง หรือป่า ทำให้เกิดไฟไหม้ได้ รวมถึง โคมลอยอาจเข้าไปรบกวนการบิน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ โคมลอยที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เมื่อเผาไหม้จะปล่อยสารพิษออกมา สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย  ปัจจุบันจึงมีกฎหมายห้ามปล่อยโคมลอย หากฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แนวทางป้องกันอุบัติเหตุ

• งดปล่อยโคมลอย: วิธีที่ดีที่สุดคือการงดปล่อยโคมลอยทุกชนิด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย
• เลือกกิจกรรมอื่น: หากิจกรรมอื่นๆ ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาทำแทน เช่น การทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ การร่วมกิจกรรมลอยกระทงทางน้ำหรือลอยกระทงออนไลน์
• แจ้งเหตุ: หากพบเห็นผู้ใดกำลังปล่อยโคมลอย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ หรือเทศบาล

4.อุบัติเหตุจากการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัด

ถึงแม้จะมีกฎหมายห้าม แต่ทุกปีก็ยังมีผู้บาดเจ็บจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่อาจไม่ตระหนักถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ การระเบิดของพลุอาจทำให้สูญเสียมือ นิ้ว หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ แรงระเบิดยังอาจทำให้เกิดบาดแผลไหม้ ผิวหนังไหม้ และบาดเจ็บภายใน  นอกจากนี้พลุที่จุดไม่หมดหรือตกลงไปในที่ที่ติดไฟง่าย อาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้อีกด้วย 

ทาง กรุงเทพมหานคร จึงได้ออกประกาศ เรื่องมาตรการป้องกันอันตรายจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ในช่วงวันลอยกระทง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ดังนีั้ 

• ห้ามมิให้จุดพลุ ประทัด หากฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
• ห้ามจำหน่ายและห้ามเล่นประทัดจีนทุกชนิด ประทัดรูปทรงกลม รูปไข่ รูปสามเหลี่ยม และไดนาไมท์ ฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

แนวทางป้องกันอุบัติเหตุ

• อบรมลูก: อธิบายให้ลูกเข้าใจถึงอันตรายของการเล่นพลุ
• สอดส่องดูแล: ตรวจสอบไม่ให้ลูกเข้าใกล้หรือเล่นพลุ
• แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: หากพบเห็นการขายหรือเล่นพลุ ให้รีบแจ้งตำรวจหรือเทศบาล

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เป็นอุบัติเหตุที่ควรระวังในเทศกาลลอยกระทงซึ่งมักเป็นข่าวให้พบเห็นกันอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทางที่ดีเราจึงควรระมัดระวังในการขับขี่ยามค่ำคืน หากต้องกินเลี้ยงสังสรรค์ อาจให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวขับรถแทน หรืออย่างน้อย การทำประกันอุบัติเหตุ และ ประกันรถยนต์ไว้ ก็จะช่วยให้เราอุ่นใจได้มากขึ้น เพราะแม้เราจะระมัดระวังตัวเองและคนรอบข้างเป็นอย่างดีแล้ว ก็อาจมีความเสี่ยงจากบุคคลภายนอกหรือรถคันอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ 

เพื่อให้ได้แผนประกันที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวมากที่สุด สนใจซื้อหรือสอบถามได้ที่ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ สาขาใกล้บ้านท่านทั่วประเทศ  โทร. 1652 หรือ LINE Official @srisawad

หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด