เอารถแลกเงิน ใช่ทางออกที่เหมาะกับเราหรือเปล่า?
หากจังหวะชีวิตช่วงนี้มีแต่เรื่องให้เสียเงิน แถมต้องใช้จ่ายมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชีวิตและการทำงาน อยู่ดี ๆ รายได้ที่เคยพอใช้ก็ขาดมือเอาเสียดื้อ ๆ เพราะมีรายจ่ายอย่างอื่นเพิ่มขึ้น หรือเกิดเรื่องฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินมาก ถ้าไม่รีบแก้ปัญหา อาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้ ซึ่งเมื่อเจอเรื่องเหล่านี้ หลายคนก็อยากมีแหล่งเงินทุนสำรองไว้เบิกถอนในยามจำเป็น แต่ถ้าหากว่าเรายังออมเงินเอาไว้ไม่เพียงพอ จะไปขอหยิบยืมคนรู้จักก็เกรงว่าจะมีปัญหากันภายหลัง เงินกู้หรือการขอสินเชื่อก็อาจเป็นทางออกที่ตอบโจทย์มากที่สุด
สินเชื่อที่เราเห็นทุกวันนี้มีหลายประเภท ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรกดเงินสด แต่อีกประเภทหนึ่งที่ศรีสวัสดิ์อยากแนะนำให้เหล่าคนมีรถเป็นของตัวเองได้รู้จัก นั่นคือ “สินเชื่อรถแลกเงิน” นั่นเอง ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะยังมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการขอสินเชื่อประเภทนี้ว่าจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างไร วันนี้เราเอามาบอกกัน
รู้จัก “รถแลกเงิน” ช่วยคนมีรถปลดภาระ หาเงินหมุนทันใช้
สินเชื่อรถแลกเงิน หรือบางครั้งอาจเรียกว่า สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียน เป็นบริการเงินกู้รูปแบบหนึ่งที่เปิดให้คนที่มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไปจนถึงรถบรรทุกและรถเพื่อการเกษตร ได้รับเงินสดมาใช้โดยใช้รถเป็นหลักประกัน จากนั้น ผู้กู้สามารถทยอยผ่อนชำระเงินคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นงวด ๆ ตามเงื่อนไขที่สินเชื่อนั้นๆ ได้กำหนดเอาไว้ พูดง่าย ๆ คือ เหมือนเอารถไปเปลี่ยนเป็นเงินสดมาใช้ในยามจำเป็นนั่นเอง
รถยนต์ของเราเปลี่ยนเป็นเงินได้เท่าไหร่?
ถึงตรงนี้ บางคนก็อาจจะยังสงสัยว่า แล้วสินเชื่อรถแลกเงินดีกว่าสินเชื่อประเภทอื่นอย่างไร ทำไมเราต้องเอารถมาค้ำประกันด้วย? หากใครที่มีโอกาสหาข้อมูลเกี่ยวกับการกู้เงินประเภทต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจจะเห็นว่า สินเชื่อแต่ละประเภทก็มีข้อดีและความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป อย่างใครไม่พร้อมเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันก็อาจเลือกขอสินเชื่อเงินสด แต่สำหรับคนที่มีรถ และต้องการเงินก้อนใหญ่ สินเชื่อรถแลกเงินนั้นก็จัดเป็นสินเชื่อที่ให้วงเงินสูงกว่า โดยจะพิจารณาตามราคาประเมินของรถและเงื่อนไขที่ทางสินเชื่อกำหนด แต่ในขณะเดียวกันก็มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อเงินสด เนื่องจากผู้ให้บริการสินเชื่อไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเท่ากับสินเชื่อแบบที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันนั่นเอง
และถ้าหากอยากรู้ว่า รถแต่ละคันจะได้วงเงินสูงแค่ไหน ส่วนใหญ่แล้ว บริการรถแลกเงินจะพิจารณาอนุมัติเงินสดให้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
- รถต้องมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด และสามารถแสดงเล่มทะเบียนตัวจริงที่ปลอดภาระแล้ว
- รถที่มีสภาพดีกว่า รวมถึงเป็นรุ่นที่นิยมในท้องตลาด มีโอกาสได้รับวงเงินสูงกว่ารถที่มีตำหนิหรือเคยได้รับความเสียหาย
ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับวงเงินที่จะได้รับอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ และหลักเกณฑ์เฉพาะของผู้ให้บริการและสาขาที่ไปติดต่อ
เอารถแลกเงินไปก็ยังมีรถใช้เหมือนเดิม!
อีกหนึ่งข้อข้องใจที่เราอยากช่วยคลายความกังวล ก็คือเรื่องกรรมสิทธิ์ของตัวรถ หลายคนเข้าใจว่าการใช้รถแลกเงินหมายถึง เราต้องนำรถมาจอดทิ้งไว้กับทางบริษัทเงินกู้เพื่อแลกเปลี่ยนมาเป็นเงิน แล้วจะได้รถคืนหลังจากผ่อนชำระจนครบตามจำนวนเงินที่ขอสินเชื่อไป ซึ่งความจริงแล้ว สิ่งที่ต้องมอบให้กับทางผู้ให้สินเชื่อมีเพียงเอกสารสำคัญตามที่กำหนด และเล่มทะเบียนรถยนต์ที่จะได้รับคืนเมื่อผ่อนชำระเสร็จสิ้น แต่กรรมสิทธิ์ในตัวรถยังคงเป็นของเจ้าของรถเช่นเดิม ซึ่งนั่นก็หมายความว่า คุณยังสามารถนำรถไปใช้งานหรือใช้ประกอบอาชีพได้ตามปกติอย่างที่คุณต้องการ
โอนเล่ม กับ ไม่โอนเล่ม แบบไหนดีกว่ากัน?
ส่วนคำว่า “โอนเล่ม” และ “ไม่โอนเล่ม” นั้น หมายถึงเล่มทะเบียนรถยนต์ที่นำมาเป็นหลักประกัน แต่จะมีความหมายที่แตกต่างกันไปก็คือ
- หากเลือกโอนเล่มทะเบียนให้เป็นชื่อของทางผู้ให้สินเชื่อ อาจได้รับวงเงินที่สูงขึ้น แต่ในเล่มทะเบียนจะมีประวัติว่าเคยเปลี่ยนชื่อเจ้าของเพื่อขอสินเชื่อมาก่อน ซึ่งหากใครไม่มีปัญหาในข้อนี้ และยินดีชำระค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ก็สามารถขอกู้สินเชื่อได้
- สำหรับสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม เป็นทางเลือกใหม่ที่ผู้กู้ไม่ต้องกังวลเรื่องกรรมสิทธิ์ เพียงนำเล่มทะเบียนตัวจริงไป “จำนำ” หรือฝากไว้กับทางผู้ให้กู้เท่านั้น
ทั้งหมดทั้งมวลที่เราให้ข้อมูลมานี้ ก็เพื่อแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับสินเชื่อรถแลกเงินมากขึ้น เพราะเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาทางการเงินได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งหากใครสนใจก็สามารถติดต่อสอบถามหรือสมัครสินเชื่อรถแลกเงินกับทางศรีสวัสดิ์ได้ เพียงคลิกที่นี่ หรือโทร. 1652 นอกจากจะได้วงเงินที่สูงกว่า และไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนแล้ว เรายังอนุมัติไว ไม่เช็กประวัติการเงิน ไม่ต้องหาคนมาเซ็นค้ำประกัน และยังไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนอีกด้วย