เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่กับปีใหม่กันแล้ว การไหว้พระขอพรเป็นประเพณีที่ดีงามที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการไป “ไหว้พระ 9 วัดในอยุธยา” นั้น ถือเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตอย่างมาก วันนี้ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ จะพาไปทำความรู้จักกับ 9 วัดสำคัญในอยุธยา พร้อมเคล็ดลับการไหว้พระขอพรให้ได้ผล รวมถึงสิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนไปเที่ยว เพื่อให้ทริปนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและได้รับพรกลับบ้านกันถ้วนหน้า
9 วัดสำคัญในอยุธยาที่ไม่ควรพลาด
วัดใหญ่ชัยมงคล
Adisa Sripathomsawat, CC BY-SA 4.0 <https://creativecommons.org/licenses/by-sa/4.0>, via Wikimedia Commons
วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นวัดที่มีพระพุทธชัยมงคลเป็นพระประธานองค์ใหญ่ เป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยและนักท่องเที่ยว
ประวัติความเป็นมา
เดิมที วัดใหญ่ชัยมงคลมีชื่อว่า “วัดป่าแก้ว” สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ต่อมาได้รับการบูรณะและขยายใหญ่ขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดใหญ่ชัยมงคล” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะในการกู้ชาติจากพม่า
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: วัดใหญ่ชัยมงคลตั้งอยู่ใจกลางเมืองอยุธยา โดยใช้ถนนสายเอเชีย ทางหลวงหมายเลข 32 จากนั้นให้แยกเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรงเข้ามาจะพบวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม เลี้ยวซ้ายไปอีก 1.5 กิโลเมตร จะเจอกับวัดใหญ่ชัยมงคล
- เวลาเปิดทำการ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
วัดพนัญเชิงวรวิหาร
Pholtograph, CC BY-SA 3.0 <https://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0>, via Wikimedia Commons
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของเมืองอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก และเป็นที่สักการะของผู้ที่ต้องการความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ประวัติความเป็นมา
เชื่อกันว่าวัดพนัญเชิงสร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา มีตำนานเล่าขานถึงความรักของพระเจ้าสายน้ำผึ้งและนางสร้อยดอกหมาก ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการสร้างวัดแห่งนี้ โดยเชื่อว่า เจ้าแม่สร้อยดอกหมากสามารถดลบันดาลให้ผู้ที่กราบไหว้ได้สมปรารถนาดังที่ขอไว้ได้ทุกเรื่องทุกประการ
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: กรณีที่มารถส่วนตัว วัดพนัญเชิงจะอยู่ห่างจากวัดใหญ่ชัยมงคล ทางด้านซ้ายมือ ตรงไปอีกราวๆ 3 กิโลเมตร
- เวลาเปิดทำการ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
วิหารพระมงคลบพิตร
Supanut Arunoprayote, CC BY 4.0 <https://creativecommons.org/licenses/by/4.0>, via Wikimedia Commons
วิหารพระมงคลบพิตร เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของอยุธยา ที่มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม และพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่เป็นที่เคารพสักการะของผู้คนทั่วไป วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ ภายในวิหารประดิษฐาน พระมงคลบพิตร พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปะ เป็นที่เคารพสักการะของผู้ที่ต้องการความสุขความเจริญ เสริมบารมีและความเป็นสิริมงคลให้กับทุกด้านของชีวิต
ประวัติความเป็นมา
เชื่อกันว่าวิหารพระมงคลบพิตรสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยมีการบูรณะปฏิสังขรณ์มาหลายครั้ง โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม และสมเด็จพระเจ้าปราเมศวร พระบรมราชาธิราชที่ ๕
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: สามารถเดินทางมาได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง หรือรถจักรยานยนต์
- เวลาเปิดทำการ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 18.30 น.
วัดพระศรีสรรเพชญ์
กสิณธร ราชโอรส, CC BY-SA 4.0 <https://creativecommons.org/licenses/by-sa/4.0>,
via Wikimedia Commons
วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณของกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2035 โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจดีย์ทรงลังกา 3 องค์ที่ตั้งเรียงรายกันอย่างโดดเด่น การมาสักการะที่วัดแห่งนี้ นอกจากจะเป็นการได้สัมผัสกับความรุ่งเรืองของอดีตแล้ว ยังเป็นการขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตอีกด้วย
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
วัดพระศรีสรรเพชญ์เคยเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและการปกครองของกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดมีการประกอบพระราชพิธีสำคัญๆ มากมาย เช่น พระราชพิธีถือน้ำพระพัทธ์สัตยา และยังเป็นต้นแบบของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ในกรุงเทพมหานครอีกด้วย
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: ตั้งอยู่บนถนนศรีสรรเพชญ์ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตรในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
- เวลาเปิดทำการ: เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-18.00 น. และเวลา 19.30-21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท หรือซื้อบัตรรวม ชาวไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท เข้าชมวัดบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ภายในระยะเวลา 30 วัน
วัดธรรมิกราช
Supanut Arunoprayote, CC BY 4.0 <https://creativecommons.org/licenses/by/4.0>, via Wikimedia Commons
วัดธรรมิกราช เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญในอยุธยาที่มีประวัติาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญทางศาสนา เดิมชื่อวัดมุขราช สร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเสียอีก ทำให้วัดแห่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อยุธยาเลยก็ว่าได้ คนนิยมขอพรพระนอนเรื่องสุขภาพ และไหว้เศียรพระธรรมิกราช เพื่อช่วยเหลือเรื่องคดีความ
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
บริเวณรอบๆ วัดธรรมิกราชเชื่อกันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งกรุงศรีอยุธยา เจดีย์ทรงกลม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือมีปูนปั้นรูปสิงห์ล้อมรอบเจดีย์ถึง 52 ตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่หาชมได้ยาก และ เศียรพระธรรมิกราช ถือเป็นเศียรพระพุทธรูปสำริดที่มีขนาดใหญ่สุดและมีความสำคัญมากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ทางวัดได้ทำเศียรจำลองขึ้นและประดิษฐานไว้ใกล้ ๆ กับพระวิหารให้ได้เยี่ยมชม เชื่อกันว่าคนที่มีเรื่องคดีความ หากไปสักการะจะช่วยให้จบลงด้วยดี
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: สามารถเดินทางมาได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง หรือรถจักรยานยนต์ ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ ไปวัดธรรมิกราชประมาณ 58 นาที ระยะทางประมาณ 40 ไมล์ โดยใช้ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด/ทางพิเศษอุดรรัถยา
- เวลาเปิดทำการ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.
วัดหน้าพระเมรุ
Mastertongapollo, CC BY-SA 4.0 <https://creativecommons.org/licenses/by-sa/4.0>, via Wikimedia Commons
วัดหน้าพระเมรุ หรือ วัดพระเมรุราชิการามวรวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองสระบัวด้านเหนือของคูเมือง ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงจากความเป็นวัดเดียวในอยุธยาที่ไม่ถูกทำลายในสงคราม และยังคงรักษาสถาปัตยกรรมเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่สักการะของผู้ที่ต้องการขอพรเรื่องความสงบสุขในชีวิต และช่วยให้รอดพ้นจากคนที่ปองร้าย
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
วัดหน้าพระเมรุเป็นวัดเดียวในอยุธยาที่รอดพ้นจากการทำลายในสงคราม ภายในวัดมีพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ เช่น พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ และพระคันธารราฐ หรือ พระพุทธรูปศิลาเขียวปางปฐมเทศนาสมัยทวารวดี อายุประมาณ 1,500 ปี
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: ตั้งอยู่ทางทิศเหนือนอกเกาะของอยุธยา ต้องขับรถข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามวัดพระศรีสรรเพชญ์และพระราชวังหลวง
- เวลาเปิดทำการ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.
วัดท่าการ้อง
เครดิตภาพจาก: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
วัดท่าการ้อง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตกของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ท่ามกลางชุมชนอิสลาม 2 หมู่บ้าน คือ บ้านท่ากับบ้านการ้อง อันเป็นวัดพุทธศาสนาที่อยู่ท่ามกลางชุมชนมุสลิม ภายในวัดมีหลวงพ่อที่มีชื่อเสียงที่ชาวบ้านเข้ามากราบไหว้กันนั่นก็คือ หลวงพ่อยิ้ม ช่วยให้สมปราถนาทั้งการเงิน การงาน สุขภาพ และ โชคลาภ
ประวัติความเป็นมา
สันนิษฐานว่าวัดท่าการ้องสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. 2092 ประมาณ 450 ปีเศษ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างในปีใด สันนิษฐานว่าคงเป็นวัดที่ราษฎรสร้าง เพราะไม่ปรากฏรายชื่อพระอารามหลวงสมัยอยุธยา วัดท่าการ้องมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของกรุงศรีอยุธยามากมาย เช่น เคยเป็นค่ายปืนใหญ่ของทัพพม่าสมัยพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้จากเสียงปืนที่ดังทำให้นกอีกาที่อยู่บริเวณนี้ตื่นแตกรังจำนวนมาก เคยเป็นค่ายทหารป้อมจำปาพล ของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ อ้างอิงจากพงศาวดาร ฉบับราชหัตถเลขาและหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- เวลาเปิดทำการ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีพระอุโบสถและพระวิหารที่สวยงาม เป็นที่สักการะของผู้ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้า
ประวัติความเป็นมา
เดิมชื่อ “วัดกษัตรา” หรือ “วัดกษัตราราม” ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ในสมัยอยุธยาทรงสร้างขึ้น เนื่องจากคำว่า “กษัตรา” หมายถึง พระมหากษัตริย์หรือพระเจ้าแผ่นดิน วัดแห่งนี้จึงมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์อย่างใกล้ชิด พระอุโบสถมีขนาดใหญ่และประดับตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธกษัตราธิราช ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงาม
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: การเดินทางมายังวัดกษัตราธิราชวรวิหาร สามารถเดินทางมาได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง หรือรถจักรยานยนต์ โดยวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หาไม่ยาก
- เวลาเปิดทำการ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30–17.30 น. หรือ 18.30 น.
วัดแม่นางปลื้ม
เครดิตภาพจาก: museumthailand
วัดแม่นางปลื้ม เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมคลองสระบัว แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับปีที่สร้างวัดแม่นางปลื้ม แต่สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลางราวพุทธศตวรรษที่ 19 มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแม่นางปลื้ม โดยเล่าว่านางเป็นผู้หญิงใจบุญสุนทาน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และเมื่อนางเสียชีวิตลง จึงได้รับการสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
วัดแม่นางปลื้มมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายเหตุการณ์ เช่น การรบกับพม่า เคยเป็นที่พักของกองทัพในสมัยอยุธยา ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธนิมิตรมงคลศรีรัตนไตรหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อขาว”เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พระพักตร์ยิ้มแย้ม ลักษณะสมบูรณ์สง่างาม นิยมขอพรเรื่องการเรียน, การงาน, โชคลาภ, ความแคล้วคลาดปลอดภัย
การเดินทางและเวลาเปิดทำการ
- การเดินทาง: ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยาทางทิศเหนือ บริเวณคลองเมือง ตรงข้ามตลาดหัวรอ ห่างจากวัดหน้าพระเมรุราชิการามวรวิหาร (พระอารามหลวง) 2 กิโลเมตร หากเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย
- เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
เคล็ดลับการไหว้พระขอพรให้ได้ผล
- ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ: ก่อนการไหว้พระควรตั้งจิตให้สงบและอธิษฐานขอพรด้วยความจริงใจ
- เตรียมเครื่องไหว้: ดอกไม้ ธูป เทียน และผลไม้ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการไหว้พระ
- แต่งกายสุภาพ: ควรแต่งกายให้เรียบร้อยและสุภาพ
- รักษาความสะอาด: ควรรักษาความสะอาดภายในวัด
- ทำบุญ: การทำบุญเป็นการสร้างกุศลที่ดี
สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนไปเที่ยว
- วางแผนการเดินทาง: ควรวางแผนเส้นทางการเดินทางให้ดี เพื่อไม่ให้เสียเวลา และตรวจสอบสภาพรถยนต์ของคุณให้พร้อมเดินทางอยู่เสมอ
- เตรียมชุดสำหรับไหว้พระ: ควรเตรียมชุดที่สุภาพเรียบร้อย
- เตรียมของใช้ส่วนตัว: ครีมกันแดด หมวก และน้ำดื่ม
- เตรียมเงินสด: สำหรับค่าทำบุญและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- ศึกษาข้อมูลวัด: ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวัดต่างๆ ที่จะไป เพื่อให้ทราบประวัติและสิ่งที่น่าสนใจ
การไปไหว้พระ 9 วัดในอยุธยาเป็นประสบการณ์ที่ดีในการเริ่มต้นปีใหม่ นอกจากจะได้เสริมสิริมงคลให้กับชีวิตรับปีใหม่แล้ว ยังได้สัมผัสกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมไทยอีกด้วย สำหรับผู้ที่เดินทางไปเองด้วยการขับรถยนต์ อย่าลืมตรวจสอบสภาพรถ และ ต่ออายุประกันรถยนต์ไว้ให้เรียบร้อย เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในทุกการเดินทาง
ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยแผนประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2+ และ ชั้น 3+ ผ่อนเงินสด 0% นานสูงสุด 12 งวด เพียงมองหาสัญลักษณ์ ศ.ศาลาสีส้ม ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่ www.sawad.co.th LINE Official: @srisawad และ โทร. 1652
หมายเหตุ
- *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
- *นายหน้าประกันวินาศภัย : บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014จำกัด
- เลขที่ใบอนุญาต : ว00011/2561