ติดแบล็กลิสต์ไม่ใช่ปัญหา ขอสินเชื่อทุกแบบได้สบาย!

การหาเงินไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากมีปัญหาเรื่องการเงินแถมยัง “ติดแบล็กลิสต์” ไปด้วย ชีวิตเราจะยากลำบากขึ้นขนาดไหน และไม่ว่าจะมีอาชีพไหนก็ตาม หากได้ยินคำว่า “แบล็กลิสต์” ทีไรก็จะมีอาการผวาไปตาม ๆ กันทุกที เพราะอาจเคยได้ยินมาว่า เจ้าบัญชีดำตัวนี้จะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่จะทำให้ปลดหนี้ไม่หมด ต่อให้จะทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม ซึ่งในความจริงแล้ว “การติดแบล็กลิสต์” จะเป็นแบบที่เราเคยได้ยินมาจริงไหม? รวมถึงถ้าหากเราต้องการจะขอสินเชื่อแต่ดันมีประวัติทางการเงินไม่ดีจนมีชื่อในบัญชีแบล็กลิสต์ด้วยแล้ว เราจะขอสินเชื่อประเภทต่าง ๆ อย่าง สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถบรรทุก สินเชื่อเพื่อการเกษตร หรือ สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์มาใช้เป็นเงินยามฉุกเฉินได้หรือไม่? หากกำลังสงสัยอยู่ล่ะก็ ศรีสวัสดิ์มีคำตอบ!

“แบล็กลิสต์” มีจริงไหม

หลายคนอาจเคยได้ยินแว่ว ๆ มาจากคนในตลาดมาว่า คนที่ขอสินเชื่อหรือกู้เงินไม่ผ่านเป็นเพราะติดแบล็กลิสต์ แต่ศรีสวัสดิ์ขอยืนยันตรงนี้ว่าคนที่ติด “แบล็กลิสต์” ก็ยังสามารถมีโอกาสยื่นขอสินเชื่อต่างๆได้ เพราะบัญชีดำตัวนี้เป็นเพียงข้อมูลที่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติรวบรวมการจ่ายหนี้ที่มีสถานะกำกับเอาไว้ต่างหาก พูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ถ้าหากเราไม่จ่ายหนี้ก็จะมีสถานะขึ้นว่า “ค้างชำระ” ในระบบของบริษัท แต่ถ้าจ่ายครบก็จะมีสถานะ “ปกติ” นั่นเอง 

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น บริษัทที่จัดเก็บข้อมูลก็ไม่มีสิทธิ์ร่วมตัดสินใจหรืออนุมัติการกู้ หรือการอนุมัติสินเชื่อรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่สิ่งที่ต้องรู้เอาไว้ คือ รายงานข้อมูลเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาตินั้นสามารถเรียกดูได้เมื่อมีการร้องขอ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการชำระหนี้ของเราสามารถถูกเปิดเผยได้นั่นเอง

ถ้า “แบล็กลิสต์” ไม่มีจริง แล้วทำไมถึงยังขอสินเชื่อไม่ผ่านสักที

ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถบรรทุกหรือสินเชื่อประเภทใดก็ตาม ธนาคารและสถาบันการเงินจะทำการเช็กประวัติทางการเงินและความสามารถในการจ่ายค่างวดของเราทุกครั้งก่อนอนุมัติ โดยเหตุผลการขอสินเชื่อไม่ผ่านนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัยมาก เช่น ประวัติการจ่ายหนี้ที่ไม่สม่ำเสมอและมีการค้างจ่าย ประวัติทางการเงินที่มีสภาพคล่องไม่ดี ภาระหนี้เดิมที่ยังใช้ไม่หมด รวมไปถึงเงื่อนไขการขอสินเชื่อ เป็นต้น ซึ่งหากสถาบันการเงินที่เราไปขอสินเชื่อแจ้งว่า เราติดแบล็กลิสต์ในบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติอยู่จนทำให้เราขอสินเชื่อไม่ผ่านนั้น เราก็สามารถพูดได้ว่า สถาบันการเงินนั้น ๆ ต้องชี้แจงกับเราเป็นเอกสารและมีลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่า ข้อมูลการค้างชำระหนี้ที่นำมาจากฐานข้อมูลนั้นเป็นอย่างไร เช่น มีประวัติค้างจ่ายเป็นเวลานานหรือหลายรายการมากจนสถาบันการเงินไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ เป็นต้น

ถ้ามีชื่ออยู่ในฐานข้อมูล ต้องเคลียร์อย่างไร

ตามกฎหมายแล้ว เราสามารถล้างประวัติการจ่ายหนี้ของเราได้ เพราะบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติจะเก็บประวัติทางการเงินของเราย้อนหลังไม่เกิน 3 ปี ดังนั้น หากเราเคลียร์หนี้จบและไม่มีค้างจ่าย ประวัติส่วนนั้นก็จะหายไปภายใน 3 ปี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว สถาบันการเงินและธนาคารมักรอพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถบรรทุก รวมถึงสินเชื่อรูปแบบอื่น ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปครบ 3 ปี โดยนับจากวันที่เราจ่ายหนี้ครบ ทุกคนก็สามารถนำรถหรือสินทรัพย์ของตัวเองมาขอสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ รวมถึงสินเชื่อรถบรรทุกได้ตามปกติ

หากยังติดหนี้อยู่ แต่รีบใช้เงินสด ต้องทำอย่างไร

สำหรับใครก็ตามที่ต้องการใช้เงินสดแต่มีประวัติค้างชำระหนี้ ศรีสวัสดิ์ขอแนะนำให้ลองติดต่อกับสถาบันการเงินโดยตรงเพื่อมองหาแนวทางการขอสินเชื่อประเภทต่าง ๆ โดยหากเรามีสินทรัพย์ประเภทไหน ๆ ก็ลองติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาได้ เช่น หากเรามีรถบรรทุก็สามารถนำมาขอสินเชื่อรถบรรทุก เป็นต้น ซึ่งการอนุมัติสินเชื่อแต่ละประเภทนั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและการพิจารณาของสถาบันการเงินเป็นหลัก โดยการพิจารณาแต่ละครั้งจะต้องดูจากหลาย ๆ ปัจจัยไม่ใช่เพียงแค่ประวัติการค้างชำระหนี้ เช่น รายได้ อาชีพ สภาพรถบรรทุก และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งรายละเอียดเงื่อนไขของแต่ละเคสจะแตกต่างกันออกไป

ถ้ายังขอสินเชื่อไม่ผ่านต้องทำอย่างไร

เงื่อนไขในการขอสินเชื่อนั้นจะใช้หลักประกันในการขอได้หลายอย่าง เช่น สินเชื่อรถบรรทุกจะใช้รถบรรทุกมาเป็นหลักประกัน เป็นต้น แต่ถ้าหากเราเป็นเจ้าของทรัพย์สินชิ้นที่เรานำมาขอสินเชื่อ แต่ยังยื่นขอสินเชื่อไม่ผ่านจริง ๆ เราต้องหันมาดูการเงินของตัวเองและเริ่มหาทางแก้ไขปัญหาทีละจุดอย่างจริงจัง โดยศรีสวัสดิ์ขอแนะนำขั้นตอนการแก้ปัญหาการเงินแบบง่าย ๆ ดังนี้ 

• สำรวจหนี้ และปรึกษาสถาบันการเงินเพื่อหาทางออก

ลองจัดลำดับความสำคัญว่า หนี้ก้อนไหนต้องรีบเคลียร์ก่อน โดยหนี้ที่ควรจัดการให้เร็วที่สุด คือ หนี้ที่ค้างจ่ายนานที่สุด เพราะหากยิ่งปล่อยไว้นาน ประวัติทางการเงินก็จะยิ่งแย่ และหากสำรวจหนี้เรียบร้อยแล้ว ศรีสวัสดิ์อยากแนะนำให้ลองไปปรึกษากับสถาบันการเงินเพื่อหาทางออกที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเราอาจขอประนอมหนี้และทำเรื่องชำระหนี้ในอัตราที่ไหวแทน

• สร้างวินัยทางการเงิน

เมื่อจัดการหนี้สินอย่างเป็นระบบแล้ว การสร้างวินัยทางการเงินใหม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรรีบทำให้เร็วที่สุด โดยสามารถเริ่มได้ง่าย ๆ จากการทำรายรับ-รายจ่าย และหาหนทางการออมเงินที่เหมาะกับรายได้และสถานการณ์ทางการเงินมากที่สุด เช่น หากทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแล้วพบว่า เราชอบใช้จ่ายเกินตัวและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหลายอย่าง เราก็ควรตัดค่าใช้จ่ายส่วนนั้นออกและนำเงินมาออม เป็นต้น

• ไม่สร้างหนี้ใหม่มาโปะหนี้เก่า

คนเป็นหนี้หลายคนมักมองว่า การกู้จากที่ใหม่มาเพื่อโปะหนี้เก่านั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่รู้หรือไม่ว่า การทำเช่นนี้จะยิ่งเป็นการต่อหนี้ออกไปอย่างไม่สิ้นสุดจนสุดท้ายก็จะพบว่า เรากำลังเป็นหนี้หัวโตอยู่ ดังนั้น หากมีหนี้อยู่แล้วก็ไม่ควรไปหาเงินกู้นอกระบบหรือไปกู้เงินเพิ่มเพื่อนำมาจ่ายหนี้ หรือหากมีหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงขึ้นเรื่อย ๆ เราก็ควรเข้าไปเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อทำการรีไฟแนนซ์แทนที่จะจ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

• ทยอยจ่ายหนี้ และเจรจากับสถาบันทางการเงินเพื่อขอสินเชื่ออีกรอบ

เมื่อเราจัดการหนี้ได้และมีประวัติการชำระที่ดีขึ้น เราสามารถเข้ามาเจรจากับสถาบันทางการเงินนั้น ๆ อีกรอบเพื่อขอสินเชื่อที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อเงินด่วน หรือสินเชื่อรถบรรทุก เป็นต้น โดยเงื่อนไขในการพิจารณานั้นจะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินนั้น ๆ 

สำหรับใครที่มีประวัติค้างจ่ายหนี้จนขอสินเชื่อแบบไหนก็ไม่ผ่านอยู่บ่อยครั้ง ที่ศรีสวัสดิ์ เราพร้อมช่วยเหลือทุกปัญหาการเงินด้วยเงื่อนไขที่ไม่ยุ่งยาก ไม่เช็กประวัติทางการเงิน กู้ได้วงเงินสูงแม้จะผ่อนทรัพย์สินไหน ๆ อยู่ก็ตาม หากใครมีข้อสงสัยหรือมีความกังวลใด ๆ ในเรื่องของเงื่อนไขและการขอสินเชื่ออย่างสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถบรรทุก หรือสินเชื่อประเภทไหน อย่ารอช้า! สามารถเข้ามาปรึกษากับศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ เพื่อหาทางออกร่วมกันได้ทุกวันทำการ ด้วยประสบการณ์ในวงการสินเชื่อมามากกว่า 40 ปี มั่นใจได้ว่าทุกปัญหานั้นจะมีทางออกที่สมเหตุสมผลและจริงใจที่สุด โทรปรึกษาด่วนตอนนี้ที่ 1652 หรือคลิกที่นี่